รวมนาฬิกาที่ครอบคลุมมิติแห่งนวัตกรรม ประโยชน์ใช้สอย ศิลปะ และมรดกทางประเพณีของ Bovet
WORDS: Cheryl Chia . Nov 19, 2025
แปลและเรียบเรียงโดย Chakhriya. S
นับตั้งแต่การฟื้นคืนชีพในช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษภายใต้การนำของ ปาสคาล แรฟฟี (Pascal Raffy) Bovet ได้แสวงหาความเป็นอิสระในระดับที่แบรนด์อื่น ๆ น้อยรายจะเทียบได้ ในแง่รูปธรรม Bovet คือโรงงานผลิตแบบครบวงจรในแนวตั้ง (vertically integrated manufacture) ที่ผลิตชิ้นส่วนเกือบทุกอย่างภายในองค์กร ตั้งแต่ตัวเรือน หน้าปัด ไปจนถึงเฟืองและสปริงบาลานซ์ แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันคือวิสัยทัศน์ทางเทคนิคที่เป็นอิสระ นาฬิกาของ Bovet มีความงามแบบคลาสสิกที่หรูหราจนอาจทำให้มองข้ามความไม่ธรรมดาและความเป็นเอกเทศของกลไกไปได้ แม้แต่กลไกสลับซับซ้อนแบบดั้งเดิมอย่างทูร์บิญอง ก็ยังถูกตีความใหม่ด้วยสถาปัตยกรรมแบบฟลายอิงทูร์บิญองสองด้าน (double-sided flying architecture) โดยที่กรงทูร์บิญองไม่มีจุดหมุนด้านบนหรือด้านล่าง แต่ถูกรองรับด้วยลูกปืนกลางระหว่างฐานสองแพลตฟอร์ม
ความเป็นอิสระทางเทคนิคของ Bovet จากโรงงานผลิตสู่ฟลายอิงสองด้าน
ความเป็นอิสระทางความคิดนี้ได้บรรลุจุดสูงสุดในนาฬิกา Récital 28 Prowess 1 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นนาฬิกาเวิลด์ไทม์เรือนแรกที่สามารถคำนึงถึงเวลาออมแสง (Daylight Saving Time – DST) ได้อย่างสมบูรณ์ นาฬิการุ่นนี้ละทิ้งแผ่นดิสก์แสดงชื่อเมืองแบบดั้งเดิมทั้งหมด และแทนที่ด้วยลูกกลิ้ง 24 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีชื่อเมืองสี่ชื่อ เมื่อกดเม็ดมะยม ชุดเฟืองตัวเลือกจะเข้ากับล้อกลางขนาดใหญ่ ซึ่งขอบด้านนอกถูกตัดเป็นซี่ฟันแนวรัศมี และด้านข้างที่มีมุมเอียงมีซี่ฟันทรงกรวย ซี่ฟันแนวรัศมีรับการเคลื่อนไหวจากตัวเลือก ในขณะที่ซี่ฟันทรงกรวยจะขับเคลื่อนวงแหวนของเฟืองแนวนอน โดยแต่ละอันจะเชื่อมต่อกับลูกกลิ้ง ผลลัพธ์ที่ได้คือลูกกลิ้งทั้ง 24 ตัวจะหมุนพร้อมกันหนึ่งในสี่รอบอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อกำหนดชื่อเมืองใหม่ให้สอดคล้องกับระบบการจับเวลาที่เลือก (UTC, AST, EAS, หรือ EWT) ทำให้หน้าปัดยังคงสอดคล้องกับความแตกต่างของเวลาในโลกแห่งความเป็นจริงในทุกฤดูกาล

Récital 28 Prowess 1 จุดสูงสุดของนวัตกรรม World Time และปฏิทินถาวร
ความงามทางกลไกอันแข็งแกร่งที่ปรากฏบนหน้าจอแสดงผลแบบลูกกลิ้งนั้นสร้างความพึงพอใจได้ด้วยตัวของมันเอง และเมื่อถูกนำมาจัดการกับปัญหาความยุ่งเหยิงของเวลาออมแสง (DST) มันก็กลายเป็นสิ่งที่มีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น Bovet ได้เพิ่มกลไกฟลายอิงทูร์บิญองสองด้าน (double-sided flying tourbillon) อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงปฏิทินถาวรที่แสดงผลบนลูกกลิ้งเช่นเดียวกันเข้าไปด้วย
การแสดงวันที่เป็นแบบย้อนกลับ (retrograde) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเฟืองสะพานแบบเส้นตรงและสปริงเกลียวที่สะสมแรงตึงวันต่อวัน และจะปล่อยแรงสะสมเมื่อสิ้นเดือน ทำให้ดรัมวันที่ดีดกลับไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับผลักดาวเดือนที่ขับเคลื่อนลูกกลิ้งเดือนให้เลื่อนไปข้างหน้าหนึ่งขั้น ลูกกลิ้งแสดงปีอธิกสุรทิน (leap year roller) จะเข้ามาเติมเต็มระบบทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนด้วยบาร์เรลเดี่ยวที่มีการสำรองพลังงานที่น่าประทับใจถึง 10 วัน

Récital 30: การกลั่นกรองแก่นแท้สู่การใช้งานประจำวัน
ในปีนี้ Bovet ได้กลั่นกรองแก่นแท้ของการประดิษฐ์ด้วยนาฬิกา Récital 30 ซึ่งเป็นแนวคิดที่สะอาดตาและเหมาะสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ด้วยขนาด 42 มม. x 12.9 มม. ทำให้มีความกะทัดรัดอย่างเห็นได้ชัด โดยเน้นให้ความสำคัญกับการแสดงเวลาโลกแบบลูกกลิ้งอันชาญฉลาดของแบรนด์ ขณะเดียวกันก็ตัดฟังก์ชันปฏิทินถาวรและทูร์บิญองออกไป สิ่งที่น่าสนใจคือ หน้าจอแสดงผลนี้สามารถจัดการกับเขตเวลาได้ถึง 25 โซน รวมถึงเขตเวลาของอินเดียที่ GMT+5:30 และถูกปรับเทียบสำหรับช่วงเวลาการจับเวลาทั้งสี่แบบเช่นเดียวกับรุ่น Prowess 1 ซึ่งสามารถปรับได้ผ่านปุ่มกดที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกา

นาฬิกา Récital 30 มีให้เลือกสองรูปแบบ แบบแรก ตัวเรือนทำจากทองคำสีกุหลาบหรือไทเทเนียม จะยึดการแสดงผลไว้กับ Coordinated Universal Time (UTC) โดยมีเมืองนิวเดลีพิมพ์ด้วยสีดำและทำเครื่องหมายด้วยลูกศรสีเหลืองหรือสีแดง เข็มนาทีรองจะสอดคล้องกับความคลาดเคลื่อน 30 นาทีของอินเดีย (GMT+5:30)
Bovet ไม่เพียงแต่รับทราบถึงเวลา IST (India Standard Time) เท่านั้น แต่ยังสร้างรุ่นย่อยทั้งหมดโดยมีเวลานี้เป็นศูนย์กลาง ในรุ่นที่สองนี้ เข็มกลางสีเหลืองหรือสีแดงจะแสดงเวลานิวเดลี โดยเวลาโลกอื่น ๆ ทั้งหมดจะอ่านโดยสัมพันธ์กับเวลานิวเดลีนั้น ในขณะที่เข็มนาทีเพิ่มเติม (สีเงินบนไทเทเนียม หรือสีทองบนทองคำสีกุหลาบ) จะระบุเวลาสำหรับส่วนที่เหลือของโลก

Miss Audrey “Bris de Verre”: ศิลปะ Métiers d’Art บนพื้นผิว
ในทางตรงกันข้าม นาฬิกา Miss Audrey “Bris de Verre” นั้นไม่ได้สร้างชื่อจากความสลับซับซ้อนของกลไก แต่สร้างชื่อจากพื้นผิวหน้าปัดของมัน หน้าปัดถูกตัดเป็นรูปสามเหลี่ยมเล็ก ๆ นับพันชิ้น โดยการแกะสลักทีละชิ้นด้วยเครื่องมือเหล็กที่เรียกว่า “องเกล็ต” (onglette) ซึ่งเป็นสิ่วที่มีปลายแหลม
งานนี้เป็นงานที่ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด โดยต้องใช้เวลาตั้งแต่ 15 ถึง 20 ชั่วโมง เพื่อทำหน้าปัดให้เสร็จสมบูรณ์หนึ่งชิ้น ตลอดการแกะสลักหน้าปัดเดียว เครื่องมือต้องถูกลับคมใหม่ตั้งแต่ 5 ถึง 40 ครั้ง เนื่องจากปลายทู่หรือหักภายใต้แรงกดซ้ำ ๆ สิ่งที่ปรากฏออกมาคือพื้นผิวที่มีเหลี่ยมมุมที่กระจายแสงเหมือนหิมะยามต้องแสงอาทิตย์ ซึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยความอดทน วินัยของสายตา และความมั่นคงของมือในการตัดนับพันครั้ง โดยรูปสามเหลี่ยมแต่ละชิ้นจะต้องมีขนาด ความลึก และมุมที่สม่ำเสมอ หากต้องการให้ความสว่างไสวของหน้าปัดคงอยู่ได้อย่างกลมกลืน

ส่วน Miss Audrey “Bris de Verre” บนหน้าปัดสีขาว ได้รับสีสันจากแซฟไฟร์รูปทรงลูกแพร์สี่เม็ด ขณะที่เข็มชั่วโมงและนาทีทำจากเหล็กกล้าสีน้ำเงินเผา (flame-blued steel) บรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-Luminova ซึ่งจะมาบรรจบกันเพื่อสร้างโครงร่างของรูปหัวใจโดยประมาณทุก ๆ 1 ชั่วโมง 5 นาที ตัวเรือนมีขนาด 36 มม. ทำจากสเตนเลสสตีล ประดับด้วยเพชรมากกว่า 100 เม็ด พร้อมด้วยระบบ Amadeo อันเป็นสิทธิบัตรของ Bovet ที่ช่วยให้สามารถเปลี่ยนนาฬิกาเรือนนี้เป็นนาฬิกาแบบจี้ (pendant) หรือนาฬิกาตั้งโต๊ะได้ นาฬิกา Miss Audrey “Bris de Verre” ถูกปล่อยออกมาในช่วงวันวาเลนไทน์ แต่ความงามของมันมีเสน่ห์ดึงดูดใจที่ยั่งยืน

19Thirty 10th Anniversary: สะพานเชื่อมมรดก Pocket Watch สู่ความโมเดิร์น
ในปีนี้ Bovet ยังได้เปิดตัวนาฬิกา 19Thirty ที่ตีความใหม่ในสไตล์โมเดิร์น ซึ่งเป็นคอลเลกชันที่ยืนหยัดมาเป็นเวลาหนึ่งทศวรรษในฐานะหนึ่งในคอลเลกชันที่โดดเด่นที่สุดของแบรนด์ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ แบรนด์ได้เปิดตัวรุ่นพิเศษที่ทำจากสเตนเลสสตีล ซึ่งตีความรหัสการออกแบบที่คุ้นเคยใหม่ด้วยสัมผัสที่เบาและทันสมัยยิ่งขึ้น
เมื่อรุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 ได้รับการออกแบบให้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างอดีตกับปัจจุบัน โดยได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากโครโนมิเตอร์นาฬิกาพกในยุค 1930 ที่อยู่ในคอลเลกชันส่วนตัวของ ปาสคาล แรฟฟี นาฬิกาเรือนนั้น บางครั้งถูกเรียกว่า “easel” chronometer (โครโนมิเตอร์ตั้งโต๊ะ) ซึ่งเป็นนาฬิกาพกยุคสุดท้ายของ Bovet ก่อนที่นาฬิกาข้อมือจะเข้ามาแทนที่ นาฬิกา 19Thirty ได้นำช่วงการเปลี่ยนผ่านนั้นมาเป็นแก่นของมัน โดยใช้ตัวเรือนทรง Fleurier ที่มีห่วง (bow) และเม็ดมะยมอยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และนำมันมาประดับบนข้อมือได้อย่างสมบูรณ์

รุ่นครบรอบ 10 ปีนี้ มีหน้าปัดให้เลือก สามสี ซึ่งเป็นการนำประวัติศาสตร์นั้นมาถ่ายทอดด้วยการแสดงออกที่เบาลง ในขณะที่รุ่นก่อน ๆ มีหน้าปัดแบบหลายส่วนที่สลับซับซ้อนและการตกแต่งที่วิจิตรบรรจง นาฬิการุ่นครบรอบนี้กลับมีความเรียบง่ายแบบมินิมอล ด้วยหน้าปัดเคลือบแลคเกอร์เต็มพื้นที่
น้ำหนักของตัวเลขอารบิกที่ตำแหน่ง 12, 3, 6 และ 9 ช่วยยึดองค์ประกอบของหน้าปัดไว้ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ตัวแสดงพลังงานสำรองที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ได้เพิ่มความไม่สมมาตรที่ทำให้หน้าปัดดูมีชีวิตชีวา รูปแบบตัวอักษรมีความโดดเด่นแต่ไม่ดูหนัก และพื้นที่ว่างที่กว้างขวางช่วยให้ขอบหน้าปัดที่เยื้องศูนย์ (offset chapter ring) แบกรับงานออกแบบส่วนใหญ่ไว้ได้

แม้ว่าหน้าปัดจะเปลี่ยนไป แต่ภายในยังคงเป็นกลไกไขลานแบบทำมือ Calibre 15BM04 ที่ผลิตภายในของ Bovet ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นอย่างมาก กลไกนี้สามารถสำรองพลังงานได้ เจ็ดวัน จากบาร์เรลเดียว และมีชุดเฟืองที่เยื้องศูนย์ซึ่งจัดวางเพื่อให้เกิดความสมมาตรทางสายตาตลอดครึ่งล่างของแผ่นฐาน (main plate)
ส่วนประกอบมากกว่า 95% ถูกผลิตภายในที่โรงงานใน Tramelan โดยมีการประกอบขั้นสุดท้ายที่ Môtiers ในฐานะรุ่นที่ระลึก มันประสบความสำเร็จในการเตือนให้เรานึกถึงประวัติศาสตร์ของ Bovet ขณะเดียวกันก็ทดสอบอย่างเงียบ ๆ ว่าการออกแบบสามารถถูกลดทอนลงได้มากน้อยเพียงใด มันมีการตกแต่งที่น้อยลง ทันสมัยมากขึ้น และแสดงให้เห็นว่า 19Thirty ยังมีพื้นที่สำหรับการพัฒนาต่อไป

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
Récital 28 Prowess 1 (Platinum)
- กลไก: ไขลานด้วยมือ Caliber R28-70-00X สำรองพลังงาน 10 วัน ความถี่ 2.5Hz หรือ 18,000vph
- ฟังก์ชัน: ชั่วโมง นาที วินาทีบนกลไก flying tourbillon เวลาโลกบนลูกกลิ้ง (rollers) แสดงเวลา UTC, อเมริกาหน้าร้อน (American Summer Time), ยุโรปและอเมริกาหน้าร้อน (European and American Summer Time) และยุโรปฤดูหนาว (European Winter Time) ปฏิทินถาวรพร้อมลูกกลิ้งแสดงวันที่ (แบบย้อนกลับ/retrograde) เดือน และปีอธิกสุรทิน จานแสดงวัน
- ตัวเรือน: 46.3 มม. × 17.85 มม. วัสดุไทเทเนียม โรสโกลด์ 18K หรือแพลทินัม 950 กันน้ำได้ลึก 30 ม.
- หน้าปัด: วงแหวนด้านในและด้านนอกทำจากหิน Aventurine ลูกกลิ้งทำจาก PVD สีดำ
- สาย: หนังจระเข้เต็มผืนสองหน้า พร้อมหัวเข็มขัดแบบพับ (folding buckle) ที่ทำจากแพลทินัม
- การจำหน่าย: ผลิตจำนวนจำกัดรวม 60 เรือน

Récital 30 (Titanium)
- กลไก: ไขลานอัตโนมัติ Caliber R30-70-001 สำรองพลังงาน 62 ชั่วโมง ความถี่ 4Hz หรือ 28,800vph
- ฟังก์ชัน: ชั่วโมง นาที และเข็มนาทีเพิ่มเติมสำหรับเวลา UTC หรือ IST (India Standard Time) เวลาโลกบนลูกกลิ้ง (rollers) แสดงเวลา UTC อเมริกาหน้าร้อน (American Summer Time) ยุโรปและอเมริกาหน้าร้อน (European and American Summer Time) และยุโรปฤดูหนาว (European Winter Time) หน้าจอแสดงผลกลางวัน-กลางคืน
- ตัวเรือน: 42 มม. × 12.9 มม. วัสดุไทเทเนียม หรือ โรสโกลด์ 18K กันน้ำได้ลึก 30 ม.
- หน้าปัด: ลูกกลิ้ง 26 ชิ้น (ลูกกลิ้งเมือง 24 ชิ้น ลูกกลิ้งช่วงเวลา 1 ชิ้น ลูกกลิ้งเวลาโลก 1 ชิ้น)หน้าปัดเวลาโลกแบบ 24 ชั่วโมงตรงกลาง ตัวระบุเวลานิวเดลีเพิ่มเติม เข็มนาทีเพิ่มเติม
- สาย: ยาง (Rubber)

Miss Audrey Bris De Verre
กลไก (Movement): ระบบอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 11BA15 สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง ความถี่ 4Hz หรือ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง
ฟังก์ชัน (Functions): แสดงชั่วโมงและนาที
ตัวเรือน (Case): ขนาด 36 มม. × 11.30 มม. ตัวเรือนและหูจับสเตนเลสสตีลประดับเพชรเจียระไนทรงกลม 103 เม็ด (~0.99 กะรัต) มาพร้อมระบบเปลี่ยนรูปแบบ Amadeo ที่จดสิทธิบัตร กันน้ำ 30 เมตร
หน้าปัด (Dial): ลายแกะสลักมือ “Bris de Verre” ประดับไพลินสีทรงหยดน้ำ 4 เม็ด เข็มทรงหัวใจเหล็กเปลวไฟรมฟ้าเคลือบ Super-LumiNova สีขาว
สายนาฬิกา (Strap): หนังจระเข้เกรนเต็มสีขาว พร้อมหัวเข็มขัด ardillon สเตนเลสสตีล

19Thirty 10th Anniversary
- กลไก: ไขลานด้วยมือ Calibre 15BM04 สำรองพลังงาน 7 วัน ความถี่ 3Hz หรือ 21,600vph
- ฟังก์ชัน: ชั่วโมง นาที วินาทีเล็ก (small seconds) ตัวแสดงพลังงานสำรอง
- ตัวเรือน: 42 × 9.05 มม. สเตนเลสสตีลขัดเงา กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดม กันน้ำได้ลึก 30 ม.
- หน้าปัด: หน้าปัดแลคเกอร์แบบเรียบง่าย สีน้ำเงิน สีเขียว “In the Dusk” (ยามพลบค่ำ) สีดำ “Queen of Trees” (ราชินีแห่งต้นไม้) พร้อมกลิตเตอร์
- สาย: หนังจระเข้เต็มผืน (Full-skin alligator) หรือ ยาง (rubber)

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
เจาะลึกรุ่นใหม่จาก De Bethune สองบุคลิกแห่งนวัตกรรม
Girard-Perregaux Laureato Three Gold Bridges กลับมาอย่างสวยงาม
Hermès H08 Chronograph นาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟปุ่มเดียว (Monopusher) รุ่นใหม่ในสีเหลืองเนเปิลส์


