Watch Trick: ไขปริศนา…ทำไมนาฬิกาเรือนโปรดถึงไม่ “ขึ้นข้อ” เราเหมือนคนอื่น?

Date:

Watch Trick เลือกนาฬิกาตามอันเดอร์โทน ปลดล็อกเรือนเวลาที่สมบูรณ์แบบด้วยการทำความเข้าใจสีผิวที่แท้จริงของคุณ

คุณเคยไหมที่ยืนมองนาฬิกาเรือนสวยในตู้โชว์แล้วรู้สึกว่า “ใช่เลย! เรือนนี้แหละที่ตามหา” หรือบางทีเห็นเพื่อนใส่แล้วดูดีมีออร่าจนอยากได้มาเป็นของตัวเองบ้าง? แต่พอคุณได้มันมาอยู่บนข้อมือ กลับรู้สึกว่า… ทำไมมันถึงไม่เปล่งประกายอย่างที่คิดนะ?

บางครั้งมันอาจจะดูสวยนะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีจนอยากหยิบมาใส่บ่อยๆ เหมือนที่คนอื่นใส่เลย เหตุผลนี้ไม่ได้อยู่ที่คุณคิดไปเอง และมันไม่ได้หมายความว่าคุณไม่เหมาะสมกับนาฬิกาที่สวยงามเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย ความจริงแล้วเคล็ดลับสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณค้นพบ “คู่แท้” ของนาฬิกาที่จะช่วยขับผิวของคุณให้ดูมีออร่าและเปล่งประกายอย่างไม่น่าเชื่อนั้น อยู่ที่สิ่งที่เราเรียกว่า “อันเดอร์โทนสีผิว”

อันเดอร์โทนสีผิว กุญแจสำคัญที่คุณอาจไม่เคยรู้

อันเดอร์โทน ไม่ใช่สีผิวภายนอกที่คุณเห็นแล้วจะเปลี่ยนไปตามแสงแดดหรือปัจจัยภายนอก แต่มันคือ สีผิวที่แท้จริง ที่อยู่ภายใต้ผิวหนังชั้นนอกของเราต่างหาก ลองนึกภาพว่าผิวของเรามีหลายเลเยอร์ เหมือนชั้นดินที่ซ้อนทับกัน อันเดอร์โทนก็คือสีที่อยู่ลึกลงไปนั่นเอง

การรู้ว่าอันเดอร์โทนของคุณเป็นแบบไหน จะช่วยให้คุณเลือกสีสันของนาฬิกาที่ส่งเสริมผิวให้ดูสว่างและมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้จริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังรวมไปถึงความรู้สึกมั่นใจทุกครั้งที่ได้สวมใส่ด้วย

มาดูกันว่าอันเดอร์โทนของคุณซ่อนสีอะไรไว้บ้าง

Watch Trick เลือกนาฬิกาตามอันเดอร์โทน วิธีเช็กก็ง่ายแสนง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรเลย แค่พลิกข้อมือขึ้นมาแล้วลองสังเกตสีเส้นเลือดที่อยู่บริเวณนั้นดู หรือจะลองหยิบเครื่องประดับสีเงินและสีทองมาเทียบกับผิวก็ได้

  • ถ้าเส้นเลือดที่ข้อมือของคุณออกสีเขียวชัดเจน นั่นหมายความว่าคุณมี อันเดอร์โทนอุ่น (Warm Undertone) และถ้าคุณลองใส่เครื่องประดับสีทองแล้วรู้สึกว่าผิวดูสว่าง มีออร่าขึ้นมาทันที นั่นแหละ คุณมาถูกทางแล้ว!
  • แต่ถ้าเส้นเลือดของคุณออกเป็นสีน้ำเงินหรือม่วง คุณน่าจะมี อันเดอร์โทนเย็น (Cool Undertone) และถ้าคุณลองใส่เครื่องประดับสีเงินแล้วรู้สึกว่าผิวดูผ่อง สดใสขึ้น นั่นคือสัญญาณที่ชัดเจนเลย
  • แล้วถ้าคุณเห็นทั้งเส้นเลือดสีเขียวปนกับสีน้ำเงินหรือม่วง หรือไม่ว่าจะใส่เครื่องประดับสีเงินหรือสีทองก็ดูดีพอๆ กัน ไม่ได้รู้สึกว่าอันไหนดีกว่าเป็นพิเศษ ขอแสดงความยินดีด้วย! คุณคือผู้โชคดีที่มี อันเดอร์โทนกลาง (Neutral Undertone)
  • ถ้าเส้นเลือดของคุณดูเป็นสีเขียวปนน้ำเงินหรือเทา ยากที่จะระบุชัดเจน และผิวโดยรวมมีสีอมเขียวเล็กน้อย นั่นหมายความว่าคุณมี อันเดอร์โทนโอลีฟ (Olive Undertone) คุณมักจะสังเกตว่าผิวจะแทนเป็นสีน้ำตาลสวยเมื่อโดนแดด และจะดูดีเป็นพิเศษกับเครื่องประดับที่ให้ความรู้สึกเป็นกลาง หรือสีที่เข้มลึก

เมื่อรู้อันเดอร์โทน… คุณก็พร้อมที่จะค้นหา “คู่แท้” ของนาฬิกาแล้ว! ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะเลือกนาฬิกาที่จะเข้ามาช่วยขับให้ผิวของคุณดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

อันเดอร์โทนอุ่น (Warm Undertone) เปล่งประกายดุจแสงอาทิตย์

ลองนึกภาพถึงผิวที่เหมือนมีแสงแดดอ่อนๆ ส่องกระทบอยู่ตลอดเวลา นั่นแหละคือเสน่ห์ของคนที่มีอันเดอร์โทนอุ่น ซึ่งมักจะมีสีผิวออกไปทางเหลือง พีช หรือสีน้ำผึ้ง นาฬิกาที่เหมาะกับคุณจึงควรเป็นโทนสีที่อบอุ่นและขับผิวให้ดูเปล่งประกายยิ่งขึ้น

  • ตัวเรือนที่ใช่: สิ่งที่จะมาเป็น “คู่แท้” ของคุณเลยก็คือ สีทอง (Yellow Gold) ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาตัวเรือนทองเงางาม หรือสีทองด้านๆ ก็ล้วนแล้วแต่จะช่วยขับความอบอุ่นของผิวคุณให้ดูเปล่งประกาย มีออร่า และดูแพงขึ้นมาทันที เหมือนกับว่านาฬิกาเรือนนั้นถูกรังสรรค์มาเพื่อข้อมือของคุณโดยเฉพาะ หากคุณอยากได้ความละมุนและอ่อนหวานขึ้นมาอีกหน่อย สีโรสโกลด์ (Rose Gold) ก็เป็นอีกตัวเลือกที่สวยงามไม่แพ้กัน จะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและโรแมนติกให้กับลุคของคุณได้ดีเยี่ยม หรือถ้าคุณชอบลุคที่ดูดิบ เท่ หรือมีสไตล์เฉพาะตัว ลองมองหานาฬิกา สีบรอนซ์ หรือสีทองแดง ดูสิ มันจะช่วยเสริมให้คุณดูมีเสน่ห์แบบเป็นธรรมชาติและไม่เหมือนใคร
  • หน้าปัดและสายที่ส่งเสริม: สำหรับหน้าปัดและสายนาฬิกา ลองเลือกโทนสี เอิร์ธโทน อย่างสีน้ำตาลเข้ม สีเบจ สีครีม หรือสีเขียวโอลีฟดู สีเหล่านี้จะช่วยเสริมความอบอุ่นของผิวคุณให้ดูผ่อนคลายและเป็นมิตร หรือถ้าคุณอยากเพิ่มลูกเล่นที่โดดเด่นแต่ยังคงความเข้ากันกับอันเดอร์โทน ลองมองหานาฬิกาสีแดงเข้ม หรือสีส้มอมน้ำตาลดู รับรองว่าคุณจะดูน่าสนใจยิ่งขึ้นแน่นอน

เรามาลองดูตัวเลือกนาฬิกาที่น่าสนใจสำหรับแต่ละอันเดอร์โทนอุ่นกัน

Frederique Constant Classics Premiere Manufacture

เหตุผล: แบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องนาฬิกาเดรสคลาสสิกที่หรูหรา ตัวเรือนโรสโกลด์หรือชุบโรสโกลด์ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและวินเทจ เข้ากันได้ดีกับผิวโทนอุ่นที่มองหาความสง่างาม

ข้อมูลทางเทคนิค Frederique Constant Classic Perpetual Calendar Manufacture (FC-776SAL3H6)

คุณสมบัติเด่น: นาฬิกาเรือนนี้โดดเด่นด้วยฟังก์ชันปฏิทินถาวร (Perpetual Calendar) ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture Calibre FC-776 ซึ่งเป็นกลไกที่พัฒนาขึ้นเองภายในโรงงาน (In-house) ลำดับที่ 34 ของแบรนด์ ตัวเรือนทำจากสเตนเลสสตีลขนาด 40 มม. และหน้าปัดสีแซลมอน ซึ่งเป็นสีโปรดของนักสะสม

กลไกการทำงาน: ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Manufacture Calibre FC-776 ที่พัฒนาขึ้นเอง มีกำลังลานสำรอง 3 วัน (72 ชั่วโมง)

ฟังก์ชัน: แสดงปฏิทินถาวร (Perpetual Calendar)

ตัวเรือน: ทำจากสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม.

หน้าปัด: หน้าปัดสีแซลมอน (Salmon) ซึ่งเป็นสีที่ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสม

Watch Trick เลือกนาฬิกาตามอันเดอร์โทน
watch-trick-the-right-time-the-right-tone

Mido Commander Big Date

เหตุผล: ด้วยดีไซน์หน้าปัดขนาดใหญ่และตัวเรือนเคลือบ PVD สีโรสโกลด์หรือทอง มอบลุคที่ดูทันสมัยแต่ยังคงความอบอุ่น ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและมีสไตล์ เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน

ข้อมูลทางเทคนิค Mido Commander Big Date (M021.626.22.061.00)

กลไกการทำงาน: ขับเคลื่อนด้วยกลไก Mido ออโตเมติก Calibre 80 (พื้นฐาน ETA) มีกำลังลานสำรองสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง

ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที วินาที และมีช่องบอกวันที่ขนาดใหญ่ (Big Date)

ตัวเรือน: ทรงกลม ทำจากสเตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ มีกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ และฝาหลังใส ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มม. หนา 12 มม. ความกว้างหูสาย 22 มม. กันน้ำได้ 50 เมตร

หน้าปัดและเข็ม: หน้าปัดสีดำแอนทราไซต์เคลือบด้าน สะท้อนแสงอาทิตย์ หลักชั่วโมงเป็นขีดบอกเวลา

สายนาฬิกา: ทำจากสเตนเลสสตีล สีโรสโกลด์ผสมสีเทา มาพร้อมบัคเคิลแบบบานพับ

Oris Divers Sixty-Five

เหตุผล: ตัวเรือนบรอนซ์จะเกิดปฏิกิริยา Patina สร้างสีสันเฉพาะตัวที่อบอุ่นและดูเก่าแก่มีเรื่องราว ซึ่งเข้ากันได้ดีกับอันเดอร์โทนอุ่นที่ชอบความดิบเท่ หรือลุคสปอร์ตวินเทจ

ข้อมูลทางเทคนิค Oris Divers Sixty-Five Date

กลไกการทำงาน: ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Calibre 733-1 (พื้นฐานจาก Sellita SW200-1) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 25.60 มม. ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4 เฮิรตซ์) และมีกำลังลานสำรอง 41 ชั่วโมง

ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที วินาที (เข็มกลาง) หน้าต่างบอกวันที่แบบฉับพลัน พร้อมฟังก์ชันปรับตั้งวันและวันที่ และระบบหยุดเข็มวินาทีเพื่อการตั้งเวลาที่แม่นยำ

ตัวเรือน: ทำจากโลหะบรอนซ์แบบประกอบหลายชิ้น ขอบตัวเรือนมาตรเวลานาทีสีบรอนซ์ ฝาหลังทำจากสเตนเลสสตีลแบบขันสกรูและแกะสลักพิเศษ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 38 มม. ความกว้างหูสาย 19 มม. กันน้ำได้ 100 เมตร

หน้าปัด: สีขาว สายนาฬิกา: ทำจากโลหะบรอนซ์

Watch Trick เลือกนาฬิกาตามอันเดอร์โทน

อันเดอร์โทนเย็น (Cool Undertone) สว่างสดใสดุจแสงจันทร์

สำหรับคนที่มีอันเดอร์โทนเย็น ผิวของคุณมักจะมีสีชมพู หรืออมแดง เหมือนมีแสงจันทร์ที่นุ่มนวลส่องกระทบอยู่เสมอ นาฬิกาที่จะมาเป็นคู่แท้ของคุณจึงควรเป็นโทนสีเย็น ที่ช่วยขับผิวให้ดูสว่าง สดใส และสะอาดตา

  • ตัวเรือนที่ใช่: คำตอบอันดับหนึ่งของคุณก็คือ สีเงิน (Silver) ไม่ว่าจะเป็นสเตนเลสสตีลสีเงินเงางาม หรือเงินด้าน ก็ล้วนแล้วแต่จะช่วยขับผิวของคุณให้ดูสว่าง สดใส และสะอาดตา เหมือนเปิดไฟให้ผิวของคุณมีออร่าขึ้นมาทันที หากคุณมองหาความหรูหราเหนือระดับ ลองพิจารณา แพลทินัม (Platinum) หรือไวท์โกลด์ (White Gold) ดูวัสดุเหล่านี้จะช่วยเสริมความสง่างามให้กับอันเดอร์โทนเย็นของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  • หน้าปัดและสายที่ส่งเสริม: เพื่อเสริมความชัดเจนและสดใสของผิว หน้าปัดและสายนาฬิกาในโทน สีเย็น อย่างสีน้ำเงินคราม สีฟ้าอ่อน สีม่วงลาเวนเดอร์ หรือสีเขียวมรกต จะช่วยให้ผิวคุณดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น หากคุณชอบลุคที่ดูเรียบง่ายแต่ทันสมัย และยังคงความสะอาดตาให้กับผิว ลองเลือกหน้าปัดและสายสีขาว หรือสีเทาก็ดูดีไม่แพ้กัน

เรามาลองดูตัวเลือกนาฬิกาที่น่าสนใจสำหรับอันเดอร์โทนเย็นกัน

watch-trick-the-right-time-the-right-tone

Sinn 556 I

เหตุผล: นาฬิกาสไตล์ Tool Watch ที่เน้นความทนทานและอ่านง่าย ตัวเรือนสตีลเคลือบเทคโนโลยีพิเศษ และหน้าปัดสีดำหรือขาว ให้ลุคที่ดูแข็งแกร่ง คมชัด และทันสมัย เหมาะกับอันเดอร์โทนเย็นที่ชอบความเรียบง่ายแต่เปี่ยมประสิทธิภาพ

กลไกการทำงาน: ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ SW200-1 ซึ่งมี 26 ทับทิม ให้ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง มีฟังก์ชันหยุดเข็มวินาที และคุณสมบัติกันสนามแม่เหล็กตามมาตรฐาน DIN 8309 (ข้อมูลกลไกอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามการผลิต)

ตัวเรือน: ตัวเรือนทำจากสเตนเลสสตีลขัดลายซาติน กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารกันสะท้อนสองด้าน ส่วนฝาหลังเป็นแซฟไฟร์คริสตัลโปร่งใสเคลือบสารกันสะท้อนด้านใน ยึดด้วยสกรูและเม็ดมะยมแบบขันเกลียว ออกแบบมาให้กันน้ำได้ถึง 200 เมตร และทนทานต่อแรงดันต่ำ

ฟังก์ชัน: แสดงเวลาเป็นชั่วโมง นาที วินาที และมีช่องแสดงวันที่

ขนาดและน้ำหนัก: ตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 38.5 มม. ความกว้างขาสาย 20 มม. ความหนาตัวเรือน 11 มม. และน้ำหนัก 65 กรัม (ไม่รวมสาย)

หน้าปัดและเข็ม: หน้าปัดสีดำเงา หลักชั่วโมงและเข็มชั่วโมง-นาทีเคลือบด้วยสารเรืองแสง เพื่อการมองเห็นในที่มืด

Longines HydroConquest

เหตุผล: นาฬิกาดำน้ำยอดนิยมจากแบรนด์สวิสที่มีประวัติยาวนาน ตัวเรือนสตีลแข็งแกร่งพร้อมหน้าปัดสีน้ำเงินหรือดำ ให้ความรู้สึกสปอร์ตหรู และขับผิวอันเดอร์โทนเย็นให้ดูโดดเด่น

ข้อมูลทางเทคนิคของนาฬิกา Longines HydroConquest (รุ่น L3.781.4.96.6)

กลไกการทำงาน: ใช้ระบบกลไกไขลานอัตโนมัติ (Automatic) ที่มีความถี่ 25,200 รอบต่อชั่วโมง และมีกำลังลานสำรองยาวนานประมาณ 72 ชั่วโมง

ฟังก์ชัน: แสดงวันที่

ตัวเรือน: ทำจากสเตนเลสสตีลคุณภาพสูง มาพร้อมขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ (สำหรับดำน้ำ) และเม็ดมะยมแบบขันเกลียวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกันน้ำ

หน้าปัดและเข็ม: หน้าปัดสีน้ำเงินซันเรย์สวยงาม เข็มนาฬิกาและหลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสง Swiss Super-LumiNova® เพื่อการอ่านค่าที่ชัดเจนในที่แสงน้อย

สายนาฬิกา: ทำจากสเตนเลสสตีล มาพร้อมตัวล็อคแบบพับเพื่อความปลอดภัยสองชั้น และมีฟังก์ชันปรับขยายสำหรับการดำน้ำ (Divers’ Extension)

watch-trick-the-right-time-the-right-tone
watch-trick-the-right-time-the-right-tone

Alpina Alpiner Extreme Automatic

เหตุผล: นาฬิกาสไตล์สปอร์ต-หรูหราที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ตัวเรือนสตีลและหน้าปัดสีน้ำเงินหรือดำ ให้ความรู้สึกทะมัดทะแมง คมชัด และเข้ากันได้ดีกับอันเดอร์โทนเย็น

ข้อมูลทางเทคนิคของนาฬิกา Alpina Alpiner Extreme Automatic (REF AL-525N4AE6)

กลไกการทำงาน: ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ AL-525 (พื้นฐาน SW200) มี 26 ทับทิม ให้ความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง และมีกำลังลานสำรอง 38 ชั่วโมง

ฟังก์ชัน: แสดงเวลาเป็นชั่วโมง นาที วินาที และมีช่องแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา

ตัวเรือน: ทำจากสเตนเลสสตีล 316L สีเงิน ขนาด 41×42.50 มม. ความหนา 11.5 มม. กันน้ำได้ 200 เมตร

หน้าปัด: หน้าปัดสีน้ำเงินผิวซาติน (Satin-finished)

สายนาฬิกา: เป็นสายยางสีน้ำเงิน ขนาด 75×115 มม. ความกว้างช่วงล็อกสาย 16 มม. มาพร้อมตัวล็อคแบบพับ (Folding buckle) พร้อมปุ่มกดปลดล็อค ขนาดตัวล็อค 21 มม.

อันเดอร์โทนกลาง (Neutral Undertone) ผู้โชคดีที่ใส่ได้ทุกสีสัน

คุณคือผู้ที่ได้รับพรจากสวรรค์จริงๆ ถ้าคุณมีอันเดอร์โทนกลาง นั่นหมายความว่าคุณสามารถใส่ได้ทั้งเครื่องประดับสีเงินและสีทองได้อย่างลงตัว ไม่ได้รู้สึกว่าสีไหนดีกว่าเป็นพิเศษ และข่าวดีก็คือนาฬิกาเกือบทุกสีก็ดูดีบนข้อมือของคุณไปซะหมด

  • ตัวเรือนที่ใช่: คุณสามารถสนุกกับการเลือกได้ทุกเฉดสีเลย ไม่ว่าจะเป็น สีเงิน (Silver) ที่ดูคลาสสิกและเรียบหรู สีทอง (Yellow Gold) ที่ดูอบอุ่นและมีเสน่ห์ สีโรสโกลด์ (Rose Gold) ที่ดูละมุนและอ่อนหวาน หรือแม้กระทั่ง นาฬิกาสองสี (Two-tone) ที่ผสมผสานระหว่างเงินและทอง ก็ล้วนแล้วแต่จะดูดีมีสไตล์บนข้อมือของคุณ
  • หน้าปัดและสายที่ส่งเสริม: สำหรับหน้าปัดและสายนาฬิกา คุณมีอิสระในการเลือกอย่างเต็มที่ สีคลาสสิก อย่างสีดำ สีกรมท่า สีขาว หรือสีเทา จะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและดูดีเสมอ ไม่ว่าจะใส่ในโอกาสไหนก็ตาม แต่ถ้าคุณอยากเพิ่มความสดใสและโดดเด่น คุณสามารถทดลอง สีสันที่หลากหลาย ได้ตามใจชอบเลย ไม่ว่าจะเป็นสีแดงสด สีเหลืองสด หรือสีเขียวสด เพราะผิวของคุณจะช่วยขับสีเหล่านั้นให้เด่นขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้คุณสนุกกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ไม่รู้จบ

เรามาลองดูตัวเลือกนาฬิกาที่น่าสนใจสำหรับอันเดอร์โทนกลางกัน

watch-trick-the-right-time-the-right-tone

Maurice Lacroix Aikon Automatic (Stainless Steel)

เหตุผล: ดีไซน์ตัวเรือนและสายแบบ Integrated Bracelet ที่โดดเด่นและเป็นที่นิยม ตัวเรือนสตีลขัดแต่งอย่างสวยงาม มีหน้าปัดให้เลือกหลายสี ทำให้เป็นนาฬิกาที่ดูดีมีสไตล์ สามารถใส่ได้ทุกโอกาสและเข้ากับอันเดอร์โทนกลางได้อย่างลงตัว

ข้อมูลทางเทคนิค Maurice Lacroix AIKON AUTOMATIC DATE 39MM

กลไกการทำงาน: ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Calibre ML115 มี 26 ทับทิม ความถี่ 28,800 vph (รอบต่อชั่วโมง) และมีกำลังลานสำรอง 38 ชั่วโมง กลไกได้รับการตกแต่งด้วยลายเพอร์ลาจ โคลิเมซง และ Côtes de Genève บนแกนหมุน

ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที วินาที และวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา

ตัวเรือน: ทำจากสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มม. หนา 11 มม. กระจกหน้าปัดเป็นคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันสะท้อนสองด้าน ฝาหลังเปลือยทำจากแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารกันสะท้อน เม็ดมะยมแบบหมุนติด และกันน้ำได้ 200 เมตร

หน้าปัดและเข็มนาฬิกา: หน้าปัดลาย Clous de Paris หลักชั่วโมงและเข็มชั่วโมง นาที วินาที ชุบสีโรสโกลด์ และเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาว

สายนาฬิกา: เป็นสายนาฬิกาสเตนเลสสตีล มีความกว้าง 23 มม. และมาพร้อมระบบเปลี่ยนสายแบบง่าย (Easy Change System)

Raymond Weil Freelancer (Stainless Steel)

เหตุผล: นาฬิกาจากแบรนด์สวิสที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความโมเดิร์น ตัวเรือนสตีลมีดีไซน์หลากหลาย ทั้งแบบสปอร์ตและเดรส มักมีหน้าปัดสีที่ค่อนข้างเป็นกลาง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นและดูดีมีระดับสำหรับอันเดอร์โทนกลาง

ข้อมูลทางเทคนิค Raymond Weil Freelancer Automatic Moon Phase and Leather Strap Watch (2496-C5S-40051)

กลไกการทำงาน: ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Swiss-made Calibre RW4280 มีกำลังลานสำรอง 41 ชั่วโมง

ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที วินาที ฟังก์ชัน Moon Phase (ข้างขึ้นข้างแรม) และวันที่

ตัวเรือน: ทำจากสเตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ รูปทรง Cushion-shaped ขนาด 34×34 มม. หนา 9.3 มม. ฝาหลังแบบกดปิดพร้อมกระจกแซฟไฟร์ เม็ดมะยมแบบขันเกลียวสลักโลโก้ ‘RW’ กันน้ำได้ 100 เมตร กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์เคลือบสารกันสะท้อนสองด้าน ประดับเพชร Lab-Grown แบบ Brilliant cut จำนวน 60 เม็ด (0.399 กะรัต) คุณภาพ VVS2 ถึง VS1

หน้าปัดและเข็มนาฬิกา: หน้าปัดสีครีม มีลวดลายตัว W ตรงกลาง หลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสงสีขาวและชุบโรสโกลด์ เข็มชั่วโมงและนาทีเคลือบสารเรืองแสง

สายนาฬิกา: เป็นสายหนังลูกวัวแท้สี Taupe (สีน้ำตาลอมเทา) มาพร้อมตัวล็อคแบบพับสเตนเลสสตีลพร้อมระบบล็อกสองชั้นเพื่อความปลอดภัย

watch-trick-the-right-time-the-right-tone
watch-trick-the-right-time-the-right-tone

Tissot Gentleman Powermatic 80 Silicium

เหตุผล: นาฬิกาสไตล์ Dressy Sport ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย ด้วยดีไซน์เรียบหรู ตัวเรือนสตีล หน้าปัดสีพื้นฐาน และกลไก Powermatic 80 ที่เชื่อถือได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่อเนกประสงค์และเข้ากับอันเดอร์โทนกลางได้ดีเยี่ยม

ข้อมูลทางเทคนิค Tissot Gentleman Powermatic 80 Silicium

กลไกการทำงาน: ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Swiss Made Calibre 11 1/2”’ (ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 25.6 มม.) ซึ่งเป็นกลไก Powermatic 80 ที่มีสปริงบาลานซ์ซิลิกอน และมีกำลังลานสำรองสูงสุด 80 ชั่วโมง

ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที วินาที และมีคุณสมบัติสปริงบาลานซ์ซิลิกอนที่ได้รับการจดสิทธิบัตร

ตัวเรือน: ทรงกลม ทำจากสเตนเลสสตีล 316L ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. หนา 11.50 มม. ระยะสลัก 21 มม. ฝาหลังเปลือย กันน้ำได้ 100 เมตร กระจกหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดมป้องกันรอยขีดข่วน พร้อมเคลือบสารป้องกันการสะท้อน

หน้าปัดและเข็มนาฬิกา: หน้าปัดสีไอซ์บลู หลักชั่วโมงเป็นจุดบอกเวลา เข็มนาฬิกาเคลือบด้วยสารเรืองแสง

สายนาฬิกา: เป็นสายสเตนเลสสตีลสีเทา มาพร้อมบัคเคิลแบบบานพับผีเสื้อพร้อมปุ่มกด และมีระบบเปลี่ยนสายแบบถอดเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว

อันเดอร์โทนโอลีฟ (Olive Undertone) เสน่ห์เฉพาะตัวที่ซับซ้อน

อันเดอร์โทนโอลีฟเป็นลักษณะพิเศษของผิวที่ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มอันเดอร์โทนอุ่นหรือเย็นอย่างชัดเจน แต่มักจะมี สีเขียวอมเหลือง เจืออยู่ในผิว มักจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อผิวได้รับแสงแดด หรือเมื่อเทียบกับสีเสื้อผ้าบางสี คนที่มีอันเดอร์โทนโอลีฟมักจะมีผิวสีกลางๆ ไม่ขาวหรือคล้ำจนเกินไป แต่ก็มีหลายเฉดสีผิวที่สามารถมีอันเดอร์โทนโอลีฟได้

วิธีสังเกตอันเดอร์โทนโอลีฟ:

  • ดูสีผิวโดยรวม: ผิวอาจดูมีสีเขียวอมเหลือง โดยเฉพาะบริเวณแก้มหรือหน้าผาก
  • สังเกตปฏิกิริยาต่อแสงแดด: ผิวสีโอลีฟมักจะแทนเป็นสีน้ำตาลสวย แทนที่จะแดงหรือไหม้เกรียมง่าย
  • เทียบกับเสื้อผ้า: เสื้อผ้าสีเขียวมะกอก สีเขียวเข้ม สีเทาอมเขียว หรือสีน้ำตาล จะช่วยขับผิวที่มีอันเดอร์โทนโอลีฟให้ดูสวยงามเป็นพิเศษ
  • เครื่องประดับ: โดยทั่วไปแล้ว คนที่มีอันเดอร์โทนโอลีฟมักจะใส่เครื่องประดับได้ทั้งสีเงินและสีทองขึ้น แต่บางครั้งเครื่องประดับสีทองจะช่วยขับความเขียวของผิวให้เด่นชัดขึ้น

แล้วจะเลือกนาฬิกาอย่างไรให้เข้ากับอันเดอร์โทนโอลีฟ?

สำหรับคนที่มีอันเดอร์โทนโอลีฟ ถือว่าค่อนข้างโชคดี เพราะสามารถเลือกนาฬิกาได้หลากหลายสีสันที่เข้ากันได้ดี

  • ตัวเรือน: สีทอง (Yellow Gold) ช่วยขับความอบอุ่นและความเขียวอมเหลืองของผิวให้ดูสวยงามและโดดเด่น สีโรสโกลด์ (Rose Gold) ให้ความหรูหราและเข้ากันได้ดีกับความซับซ้อนของอันเดอร์โทนโอลีฟ
  • หน้าปัดและสาย: สีเอิร์ธโทน เช่น สีเขียวมะกอก สีน้ำตาล สีเทาอมเขียว สีเบจ จะช่วยเสริมความเป็นธรรมชาติของอันเดอร์โทนโอลีฟ สีโทนเย็น เช่น สีเขียวเข้ม สีกรมท่า สีม่วงพลัม ก็สามารถสร้างความ contrast ที่สวยงามได้

การเลือกนาฬิกาสำหรับคนที่มีอันเดอร์โทนโอลีฟค่อนข้างยืดหยุ่น สามารถทดลองได้หลากหลายสไตล์และสีสัน สิ่งสำคัญคือการลองสวมใส่และดูว่าสีไหนที่ทำให้ผิวของคุณดูดีที่สุด และคุณรู้สึกมั่นใจเมื่อสวมใส่นาฬิกาเรือนนั้น เรามาลองดูตัวเลือกนาฬิกาที่น่าสนใจสำหรับแต่ละอันเดอร์โทนโอลีฟกัน

watch-trick-the-right-time-the-right-tone

Rado Captain Cook

เหตุผล: นาฬิกาดำน้ำดีไซน์วินเทจอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวเรือนบรอนซ์จะให้ความรู้สึกอบอุ่น หรือรุ่นสตีลที่มีหน้าปัดสีเขียวเข้ม จะช่วยขับความซับซ้อนของอันเดอร์โทนโอลีฟให้ดูโดดเด่นและมีสไตล์

ข้อมูลทางเทคนิค Rado Captain Cook Automatic Bronze (R32504317)

กลไกการทำงาน: ขับเคลื่อนด้วยระบบกลไกไขลานอัตโนมัติ (Automatic)

ฟังก์ชัน: แสดงวันที่

ตัวเรือน: ทำจากบรอนซ์ ผสมผสานกับไฮเทคเซรามิก (บริเวณขอบหน้าปัด) และไทเทเนียม (ส่วนประกอบอื่น ๆ) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มม.

สายนาฬิกา: เป็นสาย Nato ที่ผลิตจากผ้าสังเคราะห์ที่มีความทนทาน

Nomos Glashütte Club Campus

เหตุผล: แบรนด์จากเยอรมนีที่โดดเด่นด้วยดีไซน์มินิมอล หน้าปัดสีสันแปลกตาอย่างสีน้ำเงิน Deep Ocean หรือสีเหลืองสีส้ม Future Orange บนตัวเรือนสตีล จะช่วยเสริมความสดใสและขับความเฉพาะตัวของอันเดอร์โทนโอลีฟให้ดูมีชีวิตชีวา

ข้อมูลทางเทคนิค Nomos Glashütte Club Campus Starlight (Ref. 718)

กลไกการทำงาน: ระบบไขลานแบบไขลานด้วยมือ (Manual Winding)

ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที และวินาที

ตัวเรือน: ทำจากสเตนเลสสตีลแบบสองส่วน ฝาหลังสเตนเลสสตีลแบบขันเกลียว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 36 มม. หนา 8.2 มม. ระยะจากปลายขาสายถึงปลายขาสาย (Lug-to-lug) 47.5 มม. กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลทรงโดม กันน้ำได้ 100 เมตร

หน้าปัดและเข็มนาฬิกา: หน้าปัดสีเหลือง มีการผสมผสานระหว่างตัวเลขอารบิก โรมัน และขีดบอกเวลา ซึ่งเคลือบด้วยสารเรืองแสง Superluminova สีเบจ (เปล่งแสงสีน้ำเงิน) เข็มชั่วโมงและนาทีชุบโรเดียมพร้อมสารเรืองแสง Superluminova สีขาว (เปล่งแสงสีน้ำเงิน) ส่วนเข็มวินาทีเป็นสีนีออนส้ม

สายนาฬิกา: เป็นสายกำมะหยี่ Vegan velour สีเทา ความกว้างหูสาย 18 มม.

watch-trick-the-right-time-the-right-tone

King Seiko KS1969 (Stainless Steel, Green Dial/Bezel)
เหตุผล: รุ่นพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปี 1969 โดดเด่นด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีล กระจกแซฟไฟร์คริสตัลทรงกล่องเคลือบสารกันสะท้อนด้านใน น้ำหนักเบาเพียง 126 กรัม จะช่วยเสริมความเป็นธรรมชาติและขับผิวของคนที่มีอันเดอร์โทนโอลีฟให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

watch-trick-the-right-time-the-right-tone
ข้อมูลทางเทคนิค King Seiko KS1969 (SJE113)

กลไกการทำงาน: ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Caliber 6L35 (พร้อมกลไกไขลานแบบกำหนดเอง) มี 26 ทับทิม ให้ความแม่นยำ -10 ถึง +15 วินาทีต่อวัน (เมื่อไม่เคลื่อนไหว) และมีกำลังลานสำรองประมาณ 45 ชั่วโมง

ฟังก์ชัน: ฟังก์ชันหยุดเข็มวินาที และฟังก์ชันปฏิทิน (วันที่)

ตัวเรือน: ทำจากโลหะสเตนเลสสตีล มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.4 มม. หนา 9.9 มม. และยาว 43.6 มม. (Lug-to-lug) กระจกหน้าปัดเป็นแซฟไฟร์คริสตัลทรงกล่อง เคลือบสารกันสะท้อนที่พื้นผิวด้านใน ฝาหลังตัวเรือนเป็นแบบยึดสกรู

สายนาฬิกา: มาพร้อมตะขอแบบบานพับเปิดสองข้างพร้อมปุ่มกด ความยาวสาย 19 ซม. (ขอบนอก 200 มม.)

ประสิทธิภาพกันน้ำ: กันน้ำที่ระดับ 5 บาร์ (50 เมตร)

Watch Trick เลือกนาฬิกาตามอันเดอร์โทน เคล็ดลับจากประสบการณ์จริง ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจกับนาฬิกาเรือนโปรด

จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว การอ่านจากบทความหรือดูภาพจากแคตตาล็อกอาจจะไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่คุณได้ไป ลองสวมนาฬิกาเรือนนั้นจริงๆ บนข้อมือของคุณ ภายใต้แสงธรรมชาติ เพื่อให้เห็นว่าสีของตัวเรือน หน้าปัด และสายนาฬิกา เข้ากับสีผิวและอันเดอร์โทนของคุณได้ดีแค่ไหน บางทีนาฬิกาที่ดูธรรมดาในรูป อาจจะสวยโดดเด่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจเมื่ออยู่บนข้อมือคุณก็เป็นได้

นอกจากเรื่องของอันเดอร์โทนแล้ว อย่าลืมพิจารณาถึง ความรู้สึกส่วนตัว ของคุณด้วย แม้ว่าทฤษฎีจะเป็นแนวทางที่ดี แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความรู้สึกที่คุณมีต่อนาฬิกาเรือนนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าคุณรู้สึกมั่นใจ รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้สวมใส่ นั่นแหละคือนาฬิกาที่ “ใช่” สำหรับคุณอย่างแท้จริง ไม่จำเป็นต้องตามเทรนด์ หรือตามที่คนอื่นบอกว่าดีที่สุด ขอแค่คุณมีความสุขและมั่นใจที่จะหยิบมาใส่บ่อยๆ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

การเลือกนาฬิกาที่เข้ากับอันเดอร์โทนสีผิว ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามภายนอกที่ทำให้คุณดูดีขึ้นเท่านั้น แต่มันคือการค้นพบว่าอะไรที่ “ส่งเสริม” และ “ขับ” ตัวตนของคุณให้เปล่งประกายออกมาได้มากที่สุด ลองนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้ดู แล้วคุณจะแปลกใจว่านาฬิกาเพียงเรือนเดียว สามารถเปลี่ยนลุคและความมั่นใจของคุณไปได้มากแค่ไหน!

ติดตาม Watch Trick เลือกนาฬิกาตามอันเดอร์โทน ข่าวสาร และความเคลื่อนไหวในโลกเรือนเวลาสุดล้ำได้ที่ Revolution Thailand แหล่งรวมแรงบันดาลใจสำหรับนักสะสมนาฬิกาตัวจริง

ภาพ | Raymond Weil/Mido/Oris/Sinn/Frederique Constant/Longines/Tissot/Rado/Nomos Glashütte/Seiko

Share post:

More like this

เจาะลึก CHANEL Blush Watch Capsule Collection: ศิลปะแห่งเวลาที่แต่งแต้มด้วยสีสัน

เจาะลึก "CHANEL Watch Capsule Collection" คอลเลกชันนาฬิกาที่ผสานความงดงามของเครื่องสำอางเข้ากับงานฝีมือชั้นสูง ถ่ายทอดพลังแห่งสีสันและจิตวิญญาณของ CHANEL Beauty สู่เรือนเวลาสุดพิเศษ

Time To Movies | OMEGA และภารกิจใหม่ใน “007: Road to a Million”

OMEGA Seamaster Diver 300M 007 Edition กลับมามีบทบาทสำคัญในซีรีส์ "007: Road to a Million" ซีซัน 2 ร่วมติดตามการผจญภัยและค้นหาฟังก์ชันพิเศษที่ซ่อนอยู่ในนาฬิกาไปพร้อมกัน

ย้อนรอยเบื้องหลังนาฬิกาแห่ง Arrakis เมื่อ Hamilton และ Dune รวมเป็นหนึ่งเดียว

เจาะลึกการร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง Hamilton และภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ "Dune" สู่การสร้างสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับ แต่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวจากโลก Arrakis ที่เปี่ยมไปด้วยความหมายและความทุ่มเท

Smartwatch ศัตรูหรือเพื่อนร่วมทางของเรือนเวลา

การเติบโตของ Smartwatch เทคโนโลยีที่ผสานความสะดวกสบายอันทันสมัย เกิดมาเพื่อแก่งแย่งหรือผูกมิตรเสน่ห์อันไร้กาลเวลาของนาฬิกาดั้งเดิม