Urban Jürgensen การกลับมาของช่างนาฬิกาแห่งราชัน กับปรัชญา “Time Kept and Spent Beautifully”

Date:

Urban Jürgensen ตำนานนาฬิกา 250 ปี กลับมาอีกครั้งด้วยโมเดล UJ-2 แต่ละเรือนต้องใช้ 565 ชั่วโมงของงานฝีมือ และได้รับการนำเสนอสู่สายตาโลกผ่าน Timothée Chalamet

Urban Jürgensen นั้นเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาที่เป็นตำนานแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาที่มีอายุยาวนานกว่า 250 ปี ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1773 ในโคเปนเฮเกน โดย Jürgen Jürgensen และได้รับการสืบทอดจนกลายเป็นมรดกที่มั่นคงโดย Urban Jürgensen ผู้เป็นบุตรชาย ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2025 แบรนด์เก่าแก่ที่มีเรื่องราวที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเรือนเวลาได้เปิดฉากบทใหม่ที่น่าตื่นเต้น ภายใต้การนำร่วมของผู้นำที่มีวิสัยทัศน์สองคน

การนำยุคใหม่ โดยผู้นำร่วมและปรัชญาที่ละเอียดอ่อน

การกลับมาของ Urban Jürgensen อยู่ภายใต้การนำร่วมกันของสองขั้วอำนาจที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน:

  • Kari Voutilainen, Co-CEO: ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในช่างนาฬิกาที่เก่งกาจที่สุดในโลก โดยเป็นช่างนาฬิกาอิสระที่ได้รับรางวัล Grand Prix d’Horlogerie de Genève (GPHG) มากที่สุดในประวัติศาสตร์ (11 รางวัล) เขานำความเชี่ยวชาญด้านกลไกที่ไม่มีใครเทียบได้และรับผิดชอบดูแลทุกด้านของการผลิตนาฬิกา การออกแบบ และกลไกใหม่ภายในโรงงาน Voutilainen มีความเชื่อมโยงกับแบรนด์อย่างลึกซึ้ง โดยเคยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและตกแต่งนาฬิกาของแบรนด์ในช่วงปลายทศวรรษ 1990
  • Alex Rosenfield, Co-CEO: เป็นผู้นำด้านการขาย การตลาด และการสร้างแบรนด์ เขานำมุมมองทางวัฒนธรรมใหม่ ๆ ที่ได้รับจากประสบการณ์ในวงการแฟชั่นและสื่อ เพื่อให้มั่นใจว่าแบรนด์จะสะท้อนกับนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบนาฬิการุ่นใหม่

ปรัชญาหลักของแบรนด์คือ “Time kept and spent beautifully” (เวลาที่ถูกรักษาไว้และถูกใช้ไปอย่างงดงาม) ซึ่งเป็นแก่นสำคัญของชีวิตที่ใช้ไปอย่างดี Urban Jürgensen เฉลิมฉลองเวลาในฐานะ “ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตและความหรูหราที่มีค่าที่สุด” โดยมุ่งเน้นที่ความสุข ความเป็นศิลปะ และงานฝีมือในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่มี “จิตวิญญาณ”

มรดกแห่งเดนมาร์กและสวิตเซอร์แลนด์

เอกลักษณ์ของ Urban Jürgensen มาจากการผสมผสานระหว่าง DNA ของเดนมาร์กและสวิตเซอร์แลนด์

  • Danish Design: มอบปรัชญาการออกแบบที่เน้นความสง่างามและความยับยั้งชั่งใจ ทำให้นาฬิกายังคงความสะอาดตา เรียบง่าย และสง่างาม
  • Swiss Craftsmanship: เป็นเสาหลักในด้านความเที่ยงตรงและความเชี่ยวชาญด้านกลไก

Urban Jürgensen ผู้ก่อตั้งเคยฝึกฝนกับปรมาจารย์ด้านนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้นทั้งในฝรั่งเศส (Breguet), อังกฤษ (Arnold) และสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่จะนำความรู้ดังกล่าวมาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น เครื่องวัดเวลาทางทะเล (Marine Chronometers) ให้แก่กองทัพเรือเดนมาร์ก ซึ่งเป็นการผสมผสานความแม่นยำของฝรั่งเศส การใช้งานจริงของอังกฤษ และศิลปะแบบสวิส เข้ากับเลนส์ของเดนมาร์กที่เน้นความเรียบง่ายและสง่างาม

งานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ 565 ชั่วโมงแห่งความสมบูรณ์แบบ

สิ่งที่ทำให้นาฬิกาของ Urban Jürgensen มีความพิเศษอย่างยิ่งคือความมุ่งมั่นในงานฝีมือที่ทำด้วยมือแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของปรัชญา UJ

  • กลไก Double Wheel Natural Escapement: นาฬิการุ่นใหม่ เช่น UJ-2 และ UJ-3 นำเสนอระบบกลไก Double Wheel Natural Escapement อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของ Abraham-Louis Breguet และได้รับการปรับปรุงโดย Kari Voutilainen กลไกนี้ลดแรงเสียดทานและเพิ่มประสิทธิภาพความเสถียร โดยเป็นระบบที่ไม่ต้องหล่อลื่น จึงเพิ่มความแม่นยำทางโครโนเมทริกและความทนทาน
  • เข็มนาฬิกา ‘Observatory’ (Observatory Hands): เข็มนาฬิกาทุกชุดสร้างขึ้นด้วยมือในโรงงาน ต้องผ่านการดำเนินการกว่า 50 ขั้นตอน รวมถึงการใช้ความร้อน (Flame-Bluing) อย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้สีน้ำเงินเข้มลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเข็มชั่วโมงที่มีรูเปิด (openworked) อันเป็นเอกลักษณ์ (‘eye’) นั้นประกอบด้วยชิ้นส่วนสี่ส่วนแยกกัน
  • หน้าปัด Guilloché (Engine-Turned Guilloché Dials): หน้าปัดแกะสลักด้วยมือโดยใช้เครื่องมือ Rose Engine ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของแบรนด์ ต้องใช้เวลาโดยเฉลี่ย สี่วัน ต่อหน้าปัด
  • ความทุ่มเทสู่ความสมบูรณ์แบบ: นาฬิกา UJ-2 เพียงเรือนเดียว ต้องใช้เวลาในการประกอบและตกแต่งกลไกถึง 565 ชั่วโมง ของงานฝีมือโดยช่างนาฬิกาผู้เชี่ยวชาญ
นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา Timothée Chalamet ถูกจับภาพได้ขณะพยายามหลบเลี่ยงกล้องระหว่างออกไปข้างนอกในนิวยอร์ก
ภาพโดย: BACKGRID USA | วันที่ 7 ตุลาคม 2025

UJ-2 เมื่อตำนานพบกับป๊อปคัลเจอร์

นาฬิกา UJ-2 ซึ่งมีราคาระบุไว้ที่ CHF 105,000 เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ ได้ถูกนำเสนอสู่สายตาชาวโลกในบริบทที่ทันสมัยผ่าน Timothée Chalamet เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2025 นักแสดงชื่อดังได้สวมนาฬิกา UJ-2 ตัวเรือนแพลทินัม หน้าปัดสีเงิน พร้อมสายหนังจระเข้สั่งทำพิเศษสีส้ม ในระหว่างการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Marty Supreme ที่นิวยอร์ก การปรากฏตัวนี้เน้นย้ำถึงความสามารถของ Urban Jürgensen ในการเชื่อมโยงมรดกอันยาวนานเข้ากับยุคสมัยใหม่และผู้คนในแวดวงวัฒนธรรมร่วมสมัย

Urban Jürgensen จึงเป็นมากกว่านาฬิกาหรู แต่เป็นพยานที่เงียบงันถึงความล้ำค่าของเวลา เป็นเครื่องเตือนใจว่าการที่เราใช้เวลาไปอย่างไรคือสิ่งที่สร้างมูลค่าที่แท้จริงของมัน แบรนด์นี้มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีจิตวิญญาณและมุ่งสู่ความสมบูรณ์แบบทางเทคนิคเพื่อความสุขของการได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง 

สรุปภาพรวม Urban Jürgensen ในมุมมอง Revo 

การกลับมาของ Urban Jürgensen ในปี 2025 นั้นนอกจากจะเป็นการรื้อฟื้นแบรนด์เก่าแล้วยังคือการปฏิวัติครั้งใหม่ในโลกนาฬิกาชั้นสูง (Haute Horlogerie) ที่กล้าท้าทายกระแสอุตสาหกรรม โดยมีหัวใจหลักที่เน้น “ความสุดยอดของงานฝีมือที่ใช้มือ” และ “การเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมสมัยใหม่” รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับคนรุ่นใหม่และกระแสแฟชั่นอย่างมีชั้นเชิง เป็นการกำหนดนิยามใหม่ของนาฬิกาหรูที่ “มีจิตวิญญาณ” และ “ร่วมสมัย” ในเวลาเดียวกัน

Urban Jürgensen ในยุคใหม่นี้ได้เปลี่ยนความหมายของความหรูหราจาก “ความหายาก” เป็น “ความพยายามและปรัชญา” โดยมีคำขวัญ “Time kept and spent beautifully” เป็นแก่นสาร นี่คือแบรนด์ที่สร้าง “นาฬิกาที่มีชีวิต” ซึ่งสะท้อนการให้คุณค่ากับเวลาในฐานะแบรนด์เก่าแก่

ข้อมูลทางเทคนิค
รุ่น Urban Jürgensen UJ-2
  • ตัวเรือน: แพลทินัม (Platinum)
  • หน้าปัด: สีเงิน (Silver Dial) แกะสลักด้วยมือแบบกิโยเช่ (Hand-turned Guilloché)
  • ฟังก์ชั่น: ชั่วโมง นาที วินาที จุดเด่นคือมีเข็มนาฬิกาที่ผ่านการเผาด้วยความร้อนจนเป็นสีน้ำเงินเข้ม (Flame-blued Hands)
  • กลไก: กลไกแบบไขลาน (Mechanical) โดดเด่นด้วย Double Wheel Natural Escapement และต้องใช้เวลาถึง 565 ชั่วโมง ในการประกอบและตกแต่งกลไกแต่ละชุดด้วยมือ
  • สาย: สายหนังจระเข้ (เช่น สายสีส้มที่สั่งทำพิเศษสำหรับ Timothée Chalamet)

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
Past/Present/Future บทสนทนาว่าด้วยอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ URWERK
Breitling ฟื้นคืนตำนานด้วยคอลเลกชัน Lady Premier สำหรับสุภาพสตรีโดยเฉพาะ
Girard-Perregaux Laureato FIFTY การกลับมาของตำนานครึ่งศตวรรษในรูปลักษณ์ใหม่

Share post:

More like this

Hublot MP-17 Meca-10 Arsham Splash การผสานงานศิลป์โบราณคดีเชิงจินตนาการกับพลังงาน 10 วันของจักรกลที่ถูกย่อส่วน

Hublot MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire คือผลงานนาฬิกาข้อมือชิ้นแรกของ Daniel Arsham สำหรับ Hublot โดดเด่นด้วยตัวเรือนไทเทเนียม 42 มม. และช่องเปิดรูปทรงน้ำกระเซ็นที่เผยกลไกไขลาน HUB1205 (MECA-10) 10 วัน ผลิตจำนวนจำกัด 99 เรือน

Hautlence เปิดตัว “Sphere Series 3” เมื่อเวลาคือประติมากรรมจลน์ที่ถูกบีบอัดให้เข้มข้น

HAUTLENCE Sphere Series 3 ใหม่ มาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียมขนาดกะทัดรัด (37.0×45.0 มม.) แต่ยังคงเสน่ห์ของกลไกชั่วโมงทรงกลมสามแกน (Spherical Hours) และนาทีดีดกลับ (Retrograde Minute) กลไกไขลาน Calibre A82 ปรับปรุงใหม่ พร้อมกำลังสำรอง 72 ชั่วโมง ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 28 เรือน

H. Moser & Cie. Streamliner Tourbillon Pierre Gasly ความแม่นยำและจิตวิญญาณนักแข่งที่ถูกถ่ายทอดผ่านเรือนเวลา

H. Moser & Cie. และ Pierre Gasly นำเสนอ Streamliner Tourbillon สองรุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน ที่ถ่ายทอดบุคลิกนักแข่งผ่านกลไก Flying Tourbillon และหน้าปัด Chocolate Fumé ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง

Breitling ฟื้นคืนตำนานด้วยคอลเลกชัน Lady Premier สำหรับสุภาพสตรีโดยเฉพาะ

Lady Premier คือการยืนยันครั้งใหม่ของ Breitling ที่มองผู้หญิงเป็นแกนหลัก คอลเลกชันนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์โดยเฉพาะ ไม่ใช่แค่รุ่นย่อส่วนจากนาฬิกาผู้ชาย สะท้อนความมั่นใจและใช้ทองคำและเพชรแล็บที่มาจากแหล่งที่รับผิดชอบต่อสังคม