สัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ: Adam Golden ว่าด้วยเหตุผลที่ Naoya Hida คือ GOAT ของวงการนาฬิกา

Date:

ตำนานบทใหม่แห่งนาฬิกา Naoya Hida ศิลปะที่มีหัวใจเต้นตามจังหวะเวลาของเขา

จุดเริ่มต้นที่คลาสสิก มิตรภาพกับศิลปิน และนาฬิกาที่ไม่ธรรมดา

Wes Lang: ผมคิดว่าผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับ Naoya Hida ครั้งแรกในปี 2018 หรือประมาณนั้น ก่อนที่เขาจะเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการ ตอนนั้นผมเขียนคอลัมน์ให้ GQ และเราลองติดต่อไปขอยืมนาฬิกาของเขามาถ่ายภาพ แต่เขามีเรือนต้นแบบเพียงเรือนเดียว เลยไม่สามารถให้ยืมได้ แต่วิธีที่เขาปฏิเสธผมมันน่ารักมาก

ต่อมาในปี 2019 เขาก็เปิดตัวนาฬิกา Type 1B อย่างเป็นทางการ ผมจึงติดต่อผ่านเพื่อนที่รู้จักเขาและสามารถซื้อนาฬิกา 1 ใน 7 เรือนนั้นได้ โดยตอนนั้น Type 2A ก็เพิ่งออกมา ผมเลยถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะซื้อนาฬิการุ่นนั้นอีก เขาบอกว่ายังมีเหลืออยู่ ผมเลยสั่งนาฬิกามาทั้ง 2 เรือนพร้อมกันเลย

Adam Golden: ผมเพิ่งได้รู้จักเขาและแบรนด์ของเขาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในปี 2021 ตอนนั้นผมไปเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อนที่รู้จักกัน เขาบอกว่า “เฮ้ ฉันกำลังจะไปเยี่ยมช่างทำนาฬิกาคนหนึ่งที่ Wes แนะนำมา ไปด้วยกันไหม?”

แน่นอนว่าผมตอบตกลง Naoya Hida เป็นคนที่น่ารักมาก เขามีเวิร์กช็อปเล็ก ๆ และต้อนรับเราอย่างอบอุ่น ผมชอบสนับสนุนช่างทำนาฬิกาที่เป็นคนจริงใจและรักในสิ่งที่ตัวเองทำ

WL: ผู้ชายคนนี้รักนาฬิกาอย่างแท้จริง ไม่มีข้อสงสัยเลย

AG: ผมไม่เคยเจอใครที่เป็นคนที่ยอดเยี่ยมและใจกว้างขนาดนี้ตั้งแต่แรกเจอ แถมยังมีความหลงใหลในสิ่งที่เขาทำอย่างมาก เขาเล่าให้พวกเราฟังถึงประวัติทั้งหมดของเขา ว่าเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร มันน่าทึ่งมาก เขาใช้ชีวิตเพื่อสิ่งนี้จริง ๆ

WL: นั่นแหละที่ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดมากเวลาที่เปิดดูส่วนความคิดเห็นในเว็บไซต์ แล้วเห็นคนที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้เลย หรือไม่เคยแม้แต่ได้สัมผัสนาฬิกาของเขา มาตัดสินจากตัวเลข [ราคา] โดยเห็นว่านาฬิกามาจากญี่ปุ่น แล้วก็ตัดสินว่ามัน “ไม่คุ้ม” หรืออะไรแบบนั้น

ถ้าคุณอยากซื้อนาฬิกาอย่างอื่น ก็เชิญเถอะ ไปไกล ๆ เลย เอาจริง ๆ ผมว่า 9 ใน 10 ครั้ง ถ้าความเห็นเกี่ยวกับนาฬิกาบางรุ่นมันแย่ แต่ผมยังอยากซื้อมัน ผมรู้เลยว่าผมตัดสินใจถูกแล้ว

AG: ฮ่าๆ ใช่เลย ร้อยเปอร์เซ็นต์

WL: ผมก็ชอบที่ Hida ไม่ต้องการทำให้ธุรกิจของเขาใหญ่เกินไป ตอนนี้เขามีคนอยู่แค่ 3 คนเท่านั้น แต่เขาก็แค่อยากสร้างนาฬิกาที่เขารักให้เสร็จเท่านั้น เขารับคำสั่งซื้อเพียงครั้งเดียวต่อปีในฤดูใบไม้ผลิ และส่งมอบนาฬิกาในช่วงปลายปีจนถึงต้นปีถัดไป แล้วเขาก็เริ่มกระบวนการใหม่อีก บางปีก็เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมด และบางปีก็มีเวอร์ชันใหม่ของรุ่นเดิม

AG: มีไมโครแบรนด์จำนวนมากที่เอารูปแบบของนาฬิกาวินเทจมาใช้ ส่วนใหญ่ก็คือ นาฬิกาวินเทจของ Patek หรือ Vacheron แล้วทำเพียงแค่การแสดงความเคารพหรือก๊อบปี้กันแบบตรง ๆ ซึ่งนั่นก็โอเคนะ แต่สำหรับผมมันไม่น่าสนใจเลย

แต่กับ Naoya Hida มันชัดเจนว่าที่มาของแรงบันดาลใจของเขาคืออะไร เขาบอกเราตรง ๆ ที่โตเกียวเลยว่า Patek 96 และ 570 นั้นเป็น 2 รุ่นที่เขาชื่นชอบที่สุด แต่เขาก็สร้างให้มันเป็นไปตามแบบฉบับของตัวเขาเองได้อย่างชัดเจน

WL: ใช่แล้ว มันเป็นตัวของเขาเองทั้งหมด 100% ผมรู้สึกเหมือนว่าทุกวันนี้มีแบรนด์ใหม่ ๆ ที่ชอบทำอะไรแนววินเทจออกมาตลอด แต่ผมไม่มีทางซื้อนาฬิกาแบบนั้นหรอก คน ๆ นี้เขากำลังสร้างแบรนด์ของตัวเองด้วยเอกลักษณ์ของตัวเขาเอง

และเล่าเรื่องราวจากประสบการณ์กว่า 30 ปีในวงการนาฬิกา เขาเคยทำงานให้แบรนด์ใหญ่มากมาย ทั้ง F.P. Journe, Ralph Lauren, Ebel, และ Vacheron

AG: พอคิดถึงประวัติทั้งหมดนั้นแล้ว ทำให้ผมรู้สึกโชคดีจริง ๆ ที่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้กับนาฬิกา 4 เรือนนี้ คุณช่วยเล่าเกี่ยวกับนาฬิกา 4 เรือนนี้จากคอลเลกชันของคุณให้ฟังหน่อยได้ไหม?

WL: ผมมีรุ่น Type 1B ซึ่งเป็นดีไซน์ดั้งเดิม รุ่น Type 2A ที่เป็นแบบเข็มวินาทีกลาง รุ่น Type 3A ที่มีฟังก์ชั่นข้างขึ้นข้างแรม และรุ่น Type 1D ซึ่งเป็นแบบไบเมทัลที่ใช้สตีลร่วมกับเยลโลวโกลด์ เอาจริง ๆ รุ่น Type 1D นี่แหละที่ผมใส่บ่อยที่สุด คุณจะเห็นได้จากสายที่ดูเก่าและถูกใช้งานมาหนักที่สุดเลยครับ

AG: คุณสามารถบอกได้อย่างคล่องแคล่วเลย อะไรที่ทำให้คุณรักมันมากขนาดนี้?

WL: มันยากที่จะบอกนะ ผมไม่ค่อยแน่ใจ แต่มันเป็นนาฬิกาเรือนล่าสุดที่ผมได้มา และมันอาจจะเป็นเรือนโปรดของผมในตอนนี้

AG: องค์ประกอบการออกแบบที่คุณชอบที่สุดในนาฬิกาทั้งหมดนี้คืออะไร?

WL: จริง ๆ แล้วพวกมันต่างกันมากเลยนะ ตัวเรือนมีลักษณะคล้ายกันโดยมีการปรับแต่งเล็กน้อย แต่ถ้าพูดถึงการผสมผสานของหน้าปัดและเข็มของ Type 2 แล้ว มันน่าสนใจมาก หน้าปัดของมันมีวงแหวนติดตั้งอยู่รอบนอก และเข็มก็ต้องถูกจัดเรียงซ้อนกันเป็นชั้นด้วยวิธีการเฉพาะเพื่อให้ทุกอย่างพอดี โดยเฉพาะเข็มวินาทีที่อยู่ตรงกลาง มันวิเศษมาก

AG: ว้าว มันน่าทึ่งมากจริง ๆ และหน้าปัดแทบจะเหมือนเป็นแบบเซกเตอร์ด้วย

WL: Hida เรียกมันว่าหน้าปัดเซกเตอร์ มีพื้นที่ใหญ่ตรงส่วนกลาง แล้วก็มีการยกส่วนที่เป็นพื้นวงหลักชั่วโมงสูงขึ้นมา และก็มีรางนาทีแบบสองสีบริเวณส่วนริม มันสวยงามจริง ๆ

AG: ผมยังชอบวิธีที่เขาลงลายเซ็นบนนาฬิกาด้วย ตอนที่เห็นครั้งแรกผมนึกถึงลายเซ็นยาว ๆ ของ Patek Philippe เลย และยังเป็นการให้เกียรติแก่วิธีที่พวกเขาเคยทำหน้าปัดที่มีการสลักแล้วเติมร่องด้วยอีนาเมลแข็งด้วย เขาทำการตีความแบบสมัยใหม่ให้กับมัน และผมไม่คิดว่าผมเคยเห็นแบรนด์อื่นที่พยายามทำแบบนี้

WL: และผมก็ชอบที่เขาใส่คำว่า “Tokyo” ด้วย

AG: ใช่เลย มันเป็นอีกหนึ่งการอ้างอิงถึงคำว่า “Genève” บนหน้าปัดของ Patek ซึ่งมันดูสมบูรณ์แบบมาก

WL: เขายังมีการสลักอักษร “NH” ตัวเล็ก ๆ ใต้ตัวล็อกสายด้วย มันเหมือนแทบจะไม่มีการใส่แบรนด์เลย แต่กลับมีมุมที่มีอักษร “NH” เล็ก ๆ อยู่ ผมชอบมันมาก

AG: ผมยังจำได้ว่าเลยว่าเขาเคยโชว์ให้เราดูว่าช่างทำหน้าปัดของเขาทำงานยังไง และมันใช้แรงงานมากขนาดไหน ทุก ๆ องค์ประกอบเล็ก ๆ ต้องมีความละเอียดและต้องประกอบกันได้พอดี

WL: นี่แหละที่ทำให้มันยากที่จะเลือกรุ่นที่ชอบที่สุด เพราะแต่ละรุ่นมีเสน่ห์ของมันเอง ผมชอบ Type 3 ที่มาพร้อมกับการแสดงมูนเฟส ซึ่งเขาทำให้ช่องมันใหญ่ขึ้นมาเป็นรูปโค้งเหมือนเกือกม้า

AG: และมันเป็นดวงจันทร์ที่โกรธด้วยใช่ไหม?

WL: ใช่! และผมยังชอบที่ฟังก์ชันการแสดงมูนเฟสสามารถปรับตั้งได้ด้วยเม็ดมะยมโดยตรง ซึ่งมันสะดวกมากจริง ๆ

AG: และนี่ก็เป็นฟังก์ชั่นแรกของเขาด้วย คุณรู้ไหมว่าเขามีแผนที่จะทำฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกไหม?

WL: ไม่รู้เลย เขาเป็นคนที่ลึกลับมาก และผมก็ชอบแบบนั้น บางครั้งผมเจอแบรนด์ที่ไม่สามารถเก็บความลับว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ได้ พอเจอกันก็จะบอกว่า “อย่าบอกใครนะ” แบบนี้ แต่เขาไม่ใช่แบบนั้นเลย ทุกครั้งที่เราคุยกันทางอีเมล เขาจะบอกแค่ว่าเขาตื่นเต้นที่จะได้รู้ความคิดเห็นของผมเกี่ยวกับนาฬิการุ่นใหม่ของเขาแค่ไหน นั่นแหละ เขาไม่เปิดเผยอะไรเลย

AG: นั่นแหละดีที่สุดเลย นอกจากนี้ก็ต้องขอชมเขาที่ทำขนาดนาฬิกาให้อยู่ที่ประมาณ 37 มม. ด้วย มันช่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ

WL: ใช่เลย แน่นอนว่ามีแบรนด์ใหม่ ๆ รายอื่น ๆ ที่คุณและผมชอบด้วยเหมือนกัน เช่น Rexhep และสิ่งที่เขาทำ (ที่ Akrivia) เป็นต้น ซึ่งมันเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย แต่ผมก็ยังคิดว่านี่เป็นประเภทเดียวกับผู้ทำนาฬิกาแบบอิสระ ซึ่งไม่ใช่ “ไมโครแบรนด์” หรืออะไรแบบนั้น

AG: แต่นาฬิกาเหล่านี้ก็ไม่ใช่ว่าราคาจะไม่แพงนะ สำหรับการเริ่มต้น

WL: ใช่ มันไม่ใช่เลย 20,000 ดอลลาร์มันไม่ใช่เงินน้อย ๆ แต่ว่าความคุ้มค่าที่ได้จากสิ่งที่คุณจ่ายไปมันเหลือเชื่อมาก คุณไม่ได้จ่ายแค่สำหรับนาฬิกาที่คุณใส่อยู่บนข้อมือ…

AG: คุณยังจ่ายเงินให้กับที่มาของมันด้วย สำหรับความรู้ที่เขานำมาใช้ทำซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในวงการนาฬิกา

WL: มันดีที่ได้เห็นใครบางคนที่มั่นใจในตัวเองพอที่จะทำสิ่งนี้ เมื่อคิดถึงจำนวนที่ขายได้ไม่มากนัก ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเขายังสามารถทำให้มันเป็นธุรกิจที่เปิดอยู่ได้อย่างไร

AG: แม้จะขายในราคานี้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ขายมันได้มากมาย และมันก็ไม่ใช่การผลิตที่มีราคาถูกเลย นอกจากนี้ยังมีการวิจัย มีต้นทุนที่สูง มีการพัฒนา แล้วยังพนักงานอีก มันบ้าจริง ๆ

WL: แต่ว่าเขาทำมันด้วยความหลงใหล

AG: ใช่เลย คุณพูดถึง Rexhep ซึ่งเป็นอีกโลกหนึ่งของนาฬิกาหรู แต่สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับนาฬิกาของ Naoya Hida ก็คือ เขาไม่ได้พยายามจะประดิษฐ์สิ่งใหม่ขึ้นมา เขากำลังพยายามสร้างนาฬิกาที่สวยงาม ประณีต และคลาสสิก ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เขารักมาตั้งแต่เด็ก และสิ่งที่เขาประสบพบเจอตลอดอาชีพที่ยอดเยี่ยมของเขา ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมาก

WL: เขาไม่ได้พยายามจะเป็น Vacheron คนถัดไปอะไรแบบนั้น เขากำลังพยายามเป็นตัวของตัวเอง เมื่อคุณใส่นาฬิกานี้ คุณก็กำลังใส่สิ่งที่พิเศษจริง ๆ และคุณใส่มันเพื่อตัวคุณเอง

AG: คุณใส่มันเพื่อตัวคุณเอง และไม่ใช่เพื่อจะทำให้คนอื่นประทับใจ มีบางสิ่งที่น่าพูดถึงสำหรับนาฬิกาที่คุณใส่ที่ข้อมือเพื่อความสุขของตัวเอง

WL: มีช่วงเวลาและสถานที่สำหรับการโชว์พลังในวงการนาฬิกา ชนิดที่แบบ “ดูสิ ผมมีอะไร” ผมเข้าใจนะ ทุกคนก็เคยทำกันมา ทุกคนทำเรื่องแบบนี้กันหมด แต่สิ่งนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย ไม่ว่าจะในแบบไหนหรือในรูปแบบใดก็ตาม

AG: แน่นอนเลย ถึงแม้ว่าผมคิดว่ามันบอกอะไรบางอย่างได้ว่า เหล่านักสะสมที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพนับถือมากมายกลับเป็นแฟนตัวยงและผู้สนับสนุนนาฬิกาแบรนด์นี้ ขอโทษนะที่มันไม่ควรเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจว่าคนคนหนึ่งจะเลือกซื้อนาฬิกาของเขายังไง แต่มันแสดงให้เห็นอะไรบางอย่าง คนเหล่านี้ไม่โง่หรอก

WL: ผมโชคดีที่ได้เห็นนาฬิกาที่น่าทึ่งมากมาย แต่การเชื่อมโยงทางอารมณ์กับนาฬิกาของ Hida นั้นมีความพิเศษมาก นั่นเป็นวิธีที่ผมเข้าหาการสะสม มันมักจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์เสมอ และนาฬิกาของเขาคือ สิ่งที่อยู่ในลำดับสูงสุดเมื่อพูดถึงแบรนด์ที่ผมอยากสะสม

AG: ดีใจด้วยนะ แต่ขอบอกตรง ๆ ว่าผมรู้สึกอิจฉานิดหน่อย…

WL: คุณยังไม่มีเหรอ?

AG: คราวหน้าผมจะรีบส่งใบสั่งซื้อให้ทันเวลา แล้วหวังว่าเขาจะอนุมัติให้ผม สิ่งดี ๆ มักมาถึงคนที่รอคอยนะ จริงไหม?

“ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในโลกเรือนเวลาสุดล้ำได้ที่ Revolution Thailand – แหล่งรวมแรงบันดาลใจสำหรับนักสะสมนาฬิกาตัวจริง”

ที่มา: by Wes Lang

Share post:

More like this

Past/Present/Future บทสนทนาว่าด้วยอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ URWERK

บทสนทนาระหว่าง Revolution Thailand กับ Martin Frei ผู้ร่วมก่อตั้ง URWERK ทุกครั้งที่ได้เห็นเรือนเวลาหน้าตาราวกับยานอวกาศ ที่สามารถพาเราท่องไปทั้งในโลกแห่งอดีตและอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์...

Exclusive Interview: H. Moser & Cie. กับ Mr. Bertrand Meylan

การสัมภาษณ์พิเศษกับ Mr. Bertrand Meylan, CEO ของ H. Moser & Cie. ที่เผยถึงวิธีรับมือกับความท้าทายจากภายนอก แนวโน้มที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค และแผนการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยดีเอ็นเออันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

บทสนทนากับ Franz Linder ประธานบริหารผู้อยู่คู่ MIDO มากว่าสามทศวรรษ

บทสัมภาษณ์พิเศษจากงานเปิดตัว MIDO Multifort TV Chronograph เวลากว่า 30 ปีในชีวิตคนเรานั้นนับได้ว่า กินเวลาไปกว่าค่อนชีวิต...