Citizen เผยโฉม Series8 880 GMT และ 890 รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น แรงบันดาลใจจากความงามของทิวทัศน์เมืองในญี่ปุ่น

Date:

Citizen เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในไลน์ Premier ที่ผสมผสานเสน่ห์แห่งเมืองญี่ปุ่นเข้ากับความแข็งแกร่งของดีไซน์ พร้อมลุยไปได้ทั่วทุกมุมโลก

คอลเลกชันหรู Citizen Premier ต้อนรับสามสมาชิกใหม่ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ หนึ่งรุ่น Series8 คือ 880 GMT และอีกสองรุ่น Series8 890 ที่เข้ามาเสริมทัพไลน์อัปนาฬิกาจักรกลสุดประณีต เพื่อเชิดชูศิลปะแห่งงานฝีมือและจิตวิญญาณของช่างญี่ปุ่น รวมถึงสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมให้เกิดผลงานเหล่านี้ขึ้นมา

Citizen Premier Series8
Series8 880 GMT, reference NB6035-55H

แรงบันดาลใจของนาฬิกาใหม่เหล่านี้มาจาก มรดกทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และการออกแบบของญี่ปุ่น ที่สะท้อนให้เห็นถึงความกลมกลืนระหว่างแสงและเงาบนเส้นสายของอาคารในเมืองต่าง ๆ ของญี่ปุ่น เมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งก้าวล้ำและล้ำสมัยที่สุดในโลก และด้วยเหตุนี้เอง หนึ่งในนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดจึงมาพร้อมกลไกที่ถือเป็นหนึ่งใน “ภาวะแห่งเมือง” ที่ซับซ้อนและหรูหราที่สุดในวงการนาฬิกา

ในหมู่นักสะสมนาฬิกาตัวจริง มีความเห็นร่วมกันอยู่ว่า หนึ่งในสไตล์นาฬิกาที่หายากและยังมีไม่เพียงพอในตลาด ก็คือ True (หรือ Traveller) GMT ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เห็น Citizen หนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาที่ใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ยังคงตอบโจทย์ความต้องการนี้อย่างต่อเนื่อง

Citizen Premier Series8
มุมมองของกลไก Caliber 9054 จากฝาหลังกระจกแซฟไฟร์

นาฬิกา GMT ไม่ใช่ของหายากในวงการแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเลยด้วยซ้ำ กลไกสุดหรูที่สามารถบอกเวลาได้สองโซนนี้ ถือเป็นหนึ่งในฟังก์ชันที่พบได้บ่อยที่สุดในนาฬิกาจักรกลสมัยใหม่ หลังจากที่ช่างนาฬิกาเพิ่มฟังก์ชันวันที่แล้ว ขั้นต่อไปที่มักจะมุ่งไปก็คือการเพิ่มเขตเวลาอีกหนึ่งโซน แต่สิ่งที่มักถูกมองข้ามคือ กลไกของโซนเวลาที่สองนี้ทำงานอย่างไร และเหมาะกับใครมากที่สุด

โดยทั่วไปแล้ว GMT เชิงกล (Mechanical GMT) จะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ ได้แก่ “Caller” หรือ “Office” GMT และ “Traveller” หรือ “True” GMT ความแตกต่างอยู่ที่ว่า “เข็มใด” ระหว่าง เข็ม GMT แบบ 24 ชั่วโมง หรือ เข็มชั่วโมงหลัก ที่สามารถปรับแยกได้อย่างอิสระจากชุดเข็มบอกเวลาอื่น ๆ

สำหรับ Caller GMT ชื่อที่ได้มาจากการใช้งานของคนที่มักอยู่ในเขตเวลาเดิมแต่ต้องติดต่อกับผู้คนหรือธุรกิจในอีกโซนเวลาอยู่เสมอ กลไกแบบนี้เหมาะที่สุด เพราะสามารถปรับ “เข็ม GMT” ได้อย่างอิสระ ขณะที่ “เข็มชั่วโมงหลัก” ยังคงแสดงเวลาประจำของผู้ใช้ ทำให้สามารถมองเห็นเวลาในบ้านได้ชัดเจนบนหน้าปัดอยู่เสมอ

ในทางกลับกัน Traveller GMT จะทำงานแตกต่างออกไป แทนที่เข็ม GMT แบบ 24 ชั่วโมงจะเป็นเข็มที่สามารถปรับแยกได้อิสระ คราวนี้กลับเป็น เข็มชั่วโมงหลัก ที่สามารถขยับไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้ครั้งละหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้อง เดินทางข้ามเขตเวลาอยู่บ่อย ๆ แต่ยังต้องการให้หน้าปัดคงแสดงเวลา “บ้าน” ไว้เพื่อใช้เชื่อมต่อกับคนที่รักหรือทีมงานในอีกฟากโลก

เมื่อเดินทางผ่านแต่ละโซนเวลา เพียงแค่หมุนเม็ดมะยมเบา ๆ หรือกดปุ่มปรับ เข็มชั่วโมงหลักก็จะเลื่อนให้ตรงกับเวลาท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว โดยที่เข็ม GMT ยังคงบอกเวลาเดิมไว้ ฟังก์ชันนี้จึงมีประโยชน์อย่างมากและเป็นที่ต้องการของเหล่านักเดินทางรอบโลก

และในครั้งนี้ Citizen ภูมิใจนำเสนอระบบดังกล่าวใน Series8 880 GMT “The Seasons Winter” ซึ่งไม่เพียงโดดเด่นด้านความงามในแบบมินิมัลและโมเดิร์น หากยังตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและสไตล์ของ นักธุรกิจยุคใหม่ผู้ใช้ชีวิตระหว่างโลกสองใบ ได้อย่างลงตัว

Citizen Premier Series8
Citizen Series8 880 GMT มีจำนวนจำกัดเพียง 1,600 เรือนทั่วโลก

รุ่น 880 “Traveller” GMT (รหัส NB6035-55H) ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,600 เรือนทั่วโลก ถ่ายทอดบรรยากาศแห่ง “หิมะโปรยปรายยามค่ำ” และ “แสงไฟเมืองใหญ่” ได้อย่างสงบนิ่งและงดงาม ตัวเรือนและสายสแตนเลสสตีลสีเทาขนาด 41 มม. สื่อถึงฟากฟ้ายามเย็น ขณะที่การตกแต่งด้วยโทน สีทองและสีขาว ชวนให้นึกถึงแสงไฟระยิบระยับบนท้องถนนและเกล็ดหิมะที่เกาะบนพื้นเมือง

ในขณะเดียวกัน รุ่น 890 City Lights Limited Edition (รหัส NB6062-52P) ผลิตเพียง 1,200 เรือน มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสสตีลชุบสีทองขนาด 42.6 มม. หน้าปัดพื้นผิวเท็กซ์เจอร์สะท้อน “จังหวะของเมืองยามราตรี” ได้อย่างมีชีวิตชีวา โดยได้แรงบันดาลใจจากเหลี่ยมแสงเรืองรองของอาคารสูงตัดกับท้องฟ้ายามค่ำคืน

และอีกหนึ่งรุ่นลิมิเต็ดในซีรีส์เดียวกัน 890 New Dawn Limited Edition (รหัส NB6060-58H) ก็ผลิตเพียง 1,200 เรือนทั่วโลก เช่นกัน

Citizen Premier Series8
Citizen Series8 890 City Lights Limited Edition, reference NB6062-52P
Citizen Premier Series8
Citizen Series8 890 New Dawn Limited Edition, reference NB6060-58H

ตรงกันข้ามกับรุ่น NB6062-52P รุ่นนี้ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากภาพเมืองที่กำลังตื่นรับแสงแรกของวัน ตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 42.6 มม. มาพร้อมหน้าปัดลวดลายเรขาคณิตสีเงินเงางาม ที่สะท้อนเงาของกลุ่มอาคารในยามรุ่งอรุณ ขณะที่รายละเอียดสีทองบนหน้าปัดเปรียบเสมือนเส้นขอบฟ้าที่เริ่มส่องแสงอาทิตย์แรกของวันงดงาม อ่อนโยน และเปี่ยมพลังแห่งการเริ่มต้นใหม่

Citizen Premier Series8
รำลึกถึงเมืองยามค่ำคืน

นอกเหนือจากกลไก GMT อันซับซ้อนของรุ่น Series8 880 GMT แล้ว ตระกูล Series8 890 ยังมาพร้อมดีไซน์ที่ให้กลิ่นอายสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยโครงสร้างแบบ ห้าชิ้น (Five-piece Construction) สายข้อมือทรง H-link และการขัดแต่งที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด

นาฬิการุ่น 890 ยังมีคุณสมบัติ ป้องกันสนามแม่เหล็ก (Anti-Magnetic) พร้อมพลังงานสำรอง 42 ชั่วโมง และขอบหน้าปัดหมุนได้สองทิศทางจากด้านใน (Internal Bi-directional Rotating Bezel) ที่ออกแบบมาเพื่อให้พร้อมรับทุกจังหวะของชีวิต

ในแง่ของความทนทาน รุ่น Series8 880 GMT มีความสามารถในการกันน้ำได้ถึง 100 เมตร ส่วนรุ่น Series8 890 กันน้ำได้ถึง 200 เมตร มากเกินพอสำหรับการเดินทางข้ามประเทศ และยังให้ความมั่นใจได้เต็มที่แม้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คาดคิด

Citizen Premier Series8

สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ดีไซน์ของรุ่นเหล่านี้ คือ ความสามารถในการต้านสนามแม่เหล็กที่เหนือชั้นของกลไกจักรกลภายใน ซึ่งสอดคล้องกับแรงบันดาลใจจากชีวิตในเมืองสมัยใหม่อย่างแท้จริง

Citizen ระบุว่านาฬิการุ่นเหล่านี้สามารถรักษาความเที่ยงตรงของเวลาได้ในระดับ +20 / -10 วินาทีต่อวัน แม้จะอยู่ห่างจากอุปกรณ์ที่ปล่อยสนามแม่เหล็กอย่าง สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตเพียง 1 เซนติเมตร ก็ตาม ถือเป็นคุณสมบัติที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อทั้ง Series8 880 GMT และ Series8 890 ต่างก็มาพร้อมฝาหลัง แบบคริสตัลแซฟไฟร์โปร่งใส (Sapphire Display Case Back) ที่เปิดเผยให้เห็นกลไกอันประณีตภายใน

สำหรับกลไกภายในนั้น รุ่น Series8 880 GMT ใช้เครื่อง Caliber 9054 ที่ผลิตขึ้นโดย Citizen เองทั้งหมด ขณะที่รุ่น Series8 890 มาพร้อมกลไกอัตโนมัติ Caliber 9051 ที่มีประสิทธิภาพและความทนทานสูงไม่แพ้กัน

ข้อมูลทางเทคนิค
Series8 880 GMT “The Seasons Winter” (NB6035-55H)
  • ตัวเรือน: สเตนเลสสตีลสีเทา 41 มม.
  • หน้าปัด: สีเทา ตกแต่งทอง-ขาว สื่อถึงแสงไฟเมืองและเกล็ดหิมะ
  • ฟังก์ชัน: GMT ปฏิทิน กันน้ำ 100 ม. ต้านสนามแม่เหล็ก
  • กลไก: อัตโนมัติ In-house Caliber 9054
    สาย: สแตนเลสสตีลสีเทา

Series8 890 City Lights Limited Edition (NB6062-52P)

  • ตัวเรือน: สแตนเลสสตีลชุบสีทอง 42.6 มม.
  • หน้าปัด: เท็กซ์เจอร์ลวดลายเรขาคณิต สะท้อนแสงเมืองยามค่ำ
  • ฟังก์ชัน: GMT พลังงานสำรอง 42 ชม. Anti-Magnetic ขอบหน้าปัดหมุนสองทิศทาง กันน้ำ 200 ม.
  • กลไก: อัตโนมัติ Caliber 9051
  • สาย: H-link สแตนเลสสตีล

Series8 890 New Dawn Limited Edition (NB6060-58H)

  • ตัวเรือน: สแตนเลสสตีล 42.6 มม.
  • หน้าปัด: ลวดลายเรขาคณิตสีเงิน สื่อถึงเงาอาคารและแสงทองของรุ่งอรุณ
  • ฟังก์ชัน: GMT พลังงานสำรอง 42 ชม. Anti-Magnetic ขอบหน้าปัดหมุนสองทิศทาง กันน้ำ 200 ม.
  • กลไก: อัตโนมัติ Caliber 9051
  • สาย: H-link สแตนเลสสตีล

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
จากแฟชั่นเฮาส์สู่ผู้สร้างสรรค์เวลา นิยามที่ถูกตีความใหม่ผ่านเส้นสาย แสง และเงาผ่านเรือนเวลา Hermès Cut
ว่าด้วยนาฬิกา Minute Repeater บทกวีแห่งความเที่ยงตรง
เรื่องราวของกลไก BENU Power Reserve บทใหม่แห่งศิลปะช่างเยอรมันจาก Moritz Grossmann

Share post:

More like this

“La Quête” มหากาพย์แห่งการแสวงหาความเป็นเลิศ Vacheron Constantin Les Cabinotiers ซีรีส์ฉลอง 270 ปี

Vacheron Constantin ฉลองครบรอบ 270 ปีด้วยซีรีส์ Les Cabinotiers "La Quête" เผย 6 เรือนเวลาสุดยอด Single-Piece Edition ที่รวมสุดยอดกลไก Grand Complication และงานหัตถศิลป์ Métiers d'Art เพื่อสดุดีตำนานดาราศาสตร์และวีรบุรุษ

Bell & Ross BR-03 GMT COMPASS เรื่องราวของเครื่องมือนำทางบนข้อมือ

Bell & Ross BR-03 GMT Compass นำเสนอนาฬิกาที่มีความสามารถในการระบุทิศทาง โดยใช้หน้าปัดสเกลเข็มทิศร่วมกับเข็ม GMT ดีไซน์ตัวเรือนสี่เหลี่ยม 42 มม. อันเป็นเอกลักษณ์ของ Bell & Ross

Arnold & Son Globetrotter 42 Steel เมื่อตำนานโครโนมิเตอร์ถูกสลักลงบนหน้าปัดที่กะทัดรัดยิ่งขึ้น

Arnold & Son Globetrotter 42 Steel นำความพิเศษของคอลเลกชัน Globetrotter มาในขนาด 42 มม. กะทัดรัดยิ่งขึ้น มีให้เลือกสองแบบ 'Strand Blue' และ 'Greenwich Green' รุ่นละ 88 เรือน ขับเคลื่อนด้วยกลไก In-house A&S6122 พร้อมโดมโลก 3 มิติ

จากแฟชั่นเฮาส์สู่ผู้สร้างสรรค์เวลา นิยามที่ถูกตีความใหม่ผ่านเส้นสาย แสง และเงาผ่านเรือนเวลา Hermès Cut

Hermès Cut คือ "วัตถุแห่งการสร้างสรรค์" ที่ถือกำเนิดจากการ "ตัด" อย่างเด็ดขาดบนรูปทรงกลม ตัวเรือน 36 มม. ขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture Hermès H1912 และมอบอิสระในการแสดงออกด้วยระบบถอดเปลี่ยนสายได้