Gagà Laboratorio Labormatic: “สุนทรียะแบบย้อนยุคที่ไม่ลืมตัวตน”
ในบางครั้ง นาฬิกาที่มีเสน่ห์ย้อนยุคแต่ไม่พึ่งการเคารพสิ่งเก่า ๆ ก็มีให้เห็น และ Gagà Laboratorio Labormatic ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นในยุคที่มีแบรนด์นาฬิกาอยู่มากมายซึ่งยังไม่หลุดจากเทรนด์เหล่านั้น

เรื่องราวเบื้องหลัง Gagà Laboratorio
การปรากฏตัวของสองนาฬิกาจาก Gagà Laboratorio ของ Ruben Tomella ได้เสริมให้แบรนด์อิตาเลียนแห่งนี้มีความโดดเด่นขึ้น ด้วยการออกแบบที่เน้นสไตล์เรโทร-โมเดิร์น ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลในดีไซน์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอิตาลี ตั้งแต่การตัดเย็บเสื้อผ้าจนถึงวิถีชีวิตที่เรียกว่า Dolce Vita คงจะต้องแปลกใจว่าทำไมถึงไม่มีการออกแบบนาฬิกาที่แสดงถึงความเป็นอิตาลีมากนัก
ประเทศอิตาลีเป็นที่ตั้งของชุมชนสะสมนาฬิกาที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดชื่อเล่นของนาฬิกาที่มีความคลาสสิกอย่าง Longines Tre Tacche กับ Rolex Explorer II ‘Freccione’ และอื่น ๆ สำหรับผมแล้ว การเกิดขึ้นของ Gagà Laboratorio เป็นการหายใจลึกเข้าไปในอากาศที่สดชื่นของการออกแบบย้อนยุค โดยที่ Tomella ใช้คำว่า ‘Laboratorio’ เพื่อเน้นถึงแรงบันดาลใจในแบรนด์ที่มีการออกแบบทางกลที่แปลกใหม่ แตกต่างจาก Gagà Milano อันเป็นแบรนด์หลักที่มีความโดดเด่นในตัวเองอยู่แล้ว

ความเป็นมาของการออกแบบ Labormatic
การออกแบบ Labormatic ใหม่จาก Gagà Laboratorio มี 2 เวอร์ชันที่น่าสนใจ ได้แก่ Cinquanta และ Bauhaus ซึ่งสร้างสรรค์โดย Mo Copoletta ศิลปินชาวอิตาเลียนที่มีฝีมือในหลากหลายสาขา และเคยร่วมงานกับแบรนด์ดังมากมาย เช่น Bvlgari และ Romain Jerome พร้อมกับการบริหารร้านสักชื่อดังในลอนดอนอย่าง The Family Business


เสน่ห์ของยุค 50s ใน Labormatic
Labormatic มาในขนาดตัวเรือน 42 มม. ที่มีดีไซน์ขาเป็นแนวโค้งและมีเม็ดมะยมอยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา โดยมีการออกแบบให้ดูสะดุดตาแบบเรโทรดิจิตอลเป็นครั้งแรกของแบรนด์ ขนาด 42 มม. อาจดูใหญ่ไปบ้างบนกระดาษ แต่การออกแบบที่มีลักษณะโค้งงอของตัวเรือนก็ทำให้สวมใส่ได้สบายและเข้ากับข้อมือได้อย่างพอดี


การสะสมนาฬิกา คือ เรื่องที่เป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง สำหรับผม มันหมายถึงความรักในดีไซน์ที่เด่นชัด เช่น Labormatic ซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนชอบ แต่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะตัวหน้าปัดที่มีความสวยงามคล้ายกับเครื่องประดับและสถาปัตยกรรมยุคกลางของศตวรรษที่ 19 ส่วน Cinquanta ที่มาพร้อมลุคสดใสก็ให้ความรู้สึกถึง Dolce Vita ในยุค 1950s ของอิตาลี และสำหรับ Bauhaus ก็ให้ลุคที่เคร่งขรึมด้วยโทนสีดำและเทา

รายละเอียดที่ไม่เหมือนใคร
ทั้ง 2 รุ่นมีหน้าต่างบอกชั่วโมงที่มีรูปทรงเป็นเพชรที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่ง Bauhaus จะออกแนวดาร์ก ในขณะที่ Cinquanta มีโทนสีเขียวที่ทำให้คิดถึงแผงควบคุมรถยนต์ในยุค 1950s ส่วนตัวเรือนก็มีการทำให้ฝั่งด้านหน้ามีความเงางาม แล้วจึงลดลงไปด้วยการขัดแบบเบลอที่ด้านล่างให้ดูเท่ และ Bauhaus ก็มีการเคลือบ PVD เป็นสีกันเมทัลให้ดูแตกต่าง

ข้อมูลทางเทคนิค: Gagà Laboratorio Labormatic
- กลไก: ขึ้นลานอัตโนมัติ La Joux-Perret G100; พลังงานสำรอง 68 ชั่วโมง
- ฟังก์ชัน: ตัวเลขบนจานสำหรับบอกชั่วโมง การเลื่อนเข็มสำหรับนาที และดิสก์หมุนสำหรับวินาที
- ขนาดตัวเรือน: 42 มม. หนา 13.3 มม.; สแตนเลสสตีล; กันน้ำได้ที่ระดับ 50 เมตร
- หน้าปัด: หน้าปัดทรงโดมและแยกส่วนเป็นสีเขียว (Cinquanta) หรือสีดำ (Bauhaus)
- สาย: สายหนัง Saffiano ตัดเย็บด้วยมือสีเขียวหรือสีดำ หัวเข็มขัดสตีล
“ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในโลกเรือนเวลาสุดล้ำได้ที่ Revolution Thailand – แหล่งรวมแรงบันดาลใจสำหรับนักสะสมนาฬิกาตัวจริง”
ที่มา: by Thor Svaboe

