“La Quête” มหากาพย์แห่งการแสวงหาความเป็นเลิศ Vacheron Constantin Les Cabinotiers ซีรีส์ฉลอง 270 ปี

Date:

Les Cabinotiers “La Quête” เผยโฉม 6 เรือนเวลา Single-Piece Edition ฉลอง 270 ปีแห่งการแสวงหาความเป็นเลิศ

“La Quête” หรือ “การแสวงหา” คือชื่อที่ Vacheron Constantin ได้มอบให้กับซีรีส์นาฬิกา Les Cabinotiers แบบเรือนเดียวในโลก (Single-Piece Edition) ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 270 ปีของเมซง ซีรีส์นี้เป็นการอุทิศแด่การสำรวจทางดาราศาสตร์และมหากาพย์การเดินทางในตำนานโบราณ ซึ่งเป็นการผสานความเชี่ยวชาญด้านกลไกซับซ้อนระดับสูง (Grand Complication) เข้ากับหัตถศิลป์อันวิจิตร (Métiers d’Art) ของช่างฝีมือในเมซง แต่ละเรือนคือการบอกเล่าเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ ผ่านรายละเอียดที่บรรจงสร้างอย่างพิถีพิถัน

1. Les Cabinotiers The Labours of Heracles ภารกิจพิชิตเทพ

  • เรื่องราว: นาฬิกาชุดนี้ประกอบด้วย 4 เรือน (Single-piece edition) ที่อุทิศให้กับภารกิจ 12 ประการในตำนานของเฮราคลีส (Heracles) วีรบุรุษครึ่งเทพของกรีก-โรมัน ภารกิจเหล่านี้เป็นตัวแทนของการต่อสู้นิรันดร์และความมุมานะของมนุษย์
  • หัตถศิลป์และหน้าปัด: หน้าปัดไวท์โกลด์สองชั้นถูกเปลี่ยนให้เป็นผืนผ้าใบแห่งชีวิต ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวผ่านงานหัตถศิลป์สองแขนงคือ การลงยาแบบกรองด์ เฟอ (Grand Feu Enamel) และ การวาดภาพขนาดจิ๋ว (Miniature Painting) ควบคู่ไปกับ การแกะสลักด้วยมือ (Hand-engraving) โดยนาฬิกาได้นำเสนอสี่ภารกิจในตำนาน ได้แก่ ราชสีห์แห่งเนเมีย (Nemean Lion) งูไฮดราแห่งเลอร์นา (Lernaean Hydra) นกสติมฟาเลียน (Stymphalian Birds) และวัวแห่งครีต (Cretan Bull)
  • กลไกและการแสดงผล: นาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture Calibre 1120 AT ซึ่งมาพร้อมกับระบบแสดงเวลาแบบชั่วโมงจร (Satellite Hours) ที่ทำหน้าที่เป็นเข็มนาทีโดยการเลื่อนตำแหน่งไปตามสเกลนาทีที่ตายตัว ทำให้หน้าปัดเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับงานศิลปะ

2. Les Cabinotiers Celestia Astronomical Grand Complication ปรัชญาแห่งสุริยะและโลก

  • เรื่องราว: นาฬิกาแบบสองหน้าปัด (Double-sided) ที่มี 2 เรือนนี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทฤษฎีดาราศาสตร์ที่สำคัญ Homage to Ptolemy ที่อุทิศให้กับทฤษฎีโลกเป็นศูนย์กลาง (Geocentrism) และ Homage to Copernicus ที่อุทิศให้กับทฤษฎีสุริยจักรวาล (Heliocentrism)
  • หัตถศิลป์และหน้าปัด: ความพิเศษอยู่ที่การแกะสลักด้วยมือแบบ Champlevé อย่างประณีต โดยเฉพาะรุ่น Homage to Ptolemy ที่แสดงภาพดาวเคราะห์โคจรรอบโลกในรูปแบบของแผนที่ท้องฟ้า ซึ่งขยายไปถึงตัวเรือนและหูสาย
  • กลไกและความซับซ้อน: ขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture Calibre 3600 ที่ประกอบด้วย 514 ชิ้นส่วน และมีความซับซ้อนทางดาราศาสตร์ถึง 23 กลไก กลไกนี้แสดงเวลา 3 รูปแบบพร้อมกันคือ เวลาพลเรือน เวลาสุริยะ และเวลาดาราคติ พร้อมด้วยความซับซ้อนหายากอย่าง มารีโอสโคป (Mareoscope) หรือมาตรวัดน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งคำนวณจากการจัดเรียงตัวของโลก-ดวงจันทร์-ดวงอาทิตย์

3. Les Cabinotiers Grande Complication Haute Joaillerie – Moon Dust บทกวีสู่ดวงจันทร์

  • เรื่องราว: นาฬิกาสองหน้าปัดเรือนนี้เปรียบเสมือนการนำเสนอการเดินทางเชิงกวีจากโลกสู่ดวงจันทร์ เพื่อเป็นเกียรติแก่การสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์
  • กลไกและความซับซ้อน: ขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture Calibre 2755 GC16 ที่รวบรวม 16 กลไกซับซ้อน ส่วนใหญ่เป็นฟังก์ชันดาราศาสตร์และปฏิทิน โดยมีทูร์บิญอง เป็นตัวควบคุม และมีระบบ มินิทรีพีทเตอร์ (Minute Repeater) สำหรับตีระฆังบอกนาที ฟังก์ชันสำคัญรวมถึง ปฏิทินถาวร (Perpetual Calendar) สมการเวลา (Equation of Time) เวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก แผนที่ดาวซีกโลกเหนือ ข้างขึ้นข้างแรม และอายุของดวงจันทร์
  • หัตถศิลป์: เป็นการรวมกันของ 3 หัตถศิลป์หลักคือ:
    • การประดับเพชร (Gem-setting): ใช้เทคนิค baguette setting บนขอบหน้าปัดและ snow setting บนขอบตัวเรือน
    • การแกะสลัก และการแกะลายกิโยเช่ (Guillochage): ลายกิโยเช่แบบแผ่รัศมีด้วยมือบนหน้าปัด PVD สีน้ำเงินเพื่อสื่อถึงความกว้างใหญ่ของจักรวาล

4. Les Cabinotiers Cosmica Duo Grand Complication สองจักรวาลที่ผสานกัน

  • เรื่องราว: นาฬิกาเรือนเดียวในโลก (Single-piece edition) ที่โดดเด่นอย่างยิ่งด้วยระบบกลับหน้าปัดได้ (Reversible Case) ด้านหนึ่งพาผู้สังเกตการณ์สู่ดวงดาว ในขณะที่อีกด้านหนึ่งเผยให้เห็นศิลปะการเคลื่อนไหวของกลไก
  • กลไกและความซับซ้อน: กลไกใหม่ Manufacture Calibre 2756-B1 ที่มาพร้อมกับชิ้นส่วน 1,003 ชิ้น และมีความซับซ้อนถึง 24 กลไก ส่วนใหญ่เป็นฟังก์ชันดาราศาสตร์ ประกอบด้วย มินิทรีพีทเตอร์ (Minute Repeater) และทูร์บิญอง ฟังก์ชันแสดงผลประกอบด้วย ปฏิทินถาวร แผนที่ดาว และเวลาที่สอง (Second Time Zone)
  • การออกแบบ: ตัวเรือนไวท์โกลด์ขนาด 47 มม. ที่มีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ พร้อมหูสายแบบข้อต่อที่สามารถถอดและยึดสายได้ทั้งสองด้านโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ หน้าปัดด้านหนึ่งเป็นสีน้ำเงินอัลตร้ามารีน พร้อมแผนที่ดาวบางเฉียบ (0.25 มม.) ส่วนอีกด้านหนึ่งเปิดเปลือยให้เห็นความงามเชิงกลไก

5. Les Cabinotiers Armillary Tourbillon – Myth of the Pleiades ตำนานแห่งหมู่ดาวลูกไก่

  • เรื่องราว: นาฬิกาโรสโกลด์เรือนเดียวในโลก (Single-piece edition) นี้ อุทิศให้กับตำนานกรีกของกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiades) ซึ่งเป็น “เจ็ดพี่น้อง” ที่กลายเป็นดวงดาวในกลุ่มดาววัว กลุ่มดาวนี้เคยเป็นจุดนำทางที่สำคัญของนักเดินเรือในสมัยโบราณ
  • กลไกและความซับซ้อน: ขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture Calibre 1990 ที่ได้รับการคุ้มครองสิทธิบัตร 4 ฉบับ กลไกที่โดดเด่นคือ ทูร์บิญองแบบสองแกน (Bi-axial Armillary Tourbillon) ซึ่งถูกจัดแสดงอย่างสง่างามใต้โดมคริสตัลแซฟไฟร์ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา การแสดงเวลาใช้ระบบ เข็มย้อนกลับคู่ (Bi-retrograde) สำหรับชั่วโมงและนาที ซึ่งจะดีดกลับทันทีเมื่อถึงเที่ยงวันและเที่ยงคืน
  • หัตถศิลป์: ตัวเรือนได้รับการ แกะสลักด้วยมืออย่างเต็มรูปแบบ (ใช้เวลากว่า 450 ชั่วโมง) โดยช่างแกะสลักได้บรรจงสร้างภาพนูนต่ำ (bas-relief) บนด้านข้างตัวเรือน เล่าเรื่องราวของนายพรานโอไรออน (Orion) ไล่ตามกลุ่มดาวลูกไก่ และกลุ่มดาววัว (Taurus) นำทางอาร์โกนอต (Argonauts) พร้อมประดับเพชรบริลเลียนต์คัต 10 เม็ดบนตัวเรือนเพื่อเป็นตัวแทนของกลุ่มดาวลูกไก่

6. Les Cabinotiers Homage to Epic Warriors Minute Repeater วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่

  • เรื่องราว: นาฬิกาชุดนี้ประกอบด้วย 4 เรือน (Single-piece edition) ที่ให้เกียรติและเชิดชูความสำเร็จและมรดกของสี่สุดยอดนักรบผู้ยิ่งใหญ่จากยุคสมัยและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ได้แก่ อเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great) แอนตาร์ (Antar) เจงกิสข่าน (Genghis Khan) และ ซาซากิ โมริสึนะ (Sasaki Moritsuna) นาฬิกาเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเมซงในการแสวงหาความเป็นเลิศ ด้วยการเฉลิมฉลองความกล้าหาญ ความพากเพียร และมรดกอันสูงส่งที่วีรบุรุษเหล่านี้ได้ทิ้งไว้
  • หัตถศิลป์และหน้าปัด: หน้าปัดทองคำ 18K 2N Yellow Gold ผสมผสานงานหัตถศิลป์หายากสองแขนง:
    • การวาดภาพขนาดจิ๋วลงยาแบบกรองด์ เฟอ (Grand Feu Miniature Enamel): ภาพวาดของวีรบุรุษถูกรังสรรค์อย่างละเอียดบนหน้าปัด โดยใช้เทคนิคการเคลือบสลับสี 6-7 ชั้น และผ่านการเผาที่อุณหภูมิสูง (800-900°C) หลังการลงยาแต่ละชั้น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 120 ชั่วโมงต่อหน้าปัด
    • การแกะสลักด้วยมือ (Hand-engraving): พื้นหลังหน้าปัดถูกแกะสลักด้วยมืออย่างประณีตด้วยผิวแบบด้านและแบบมันวาว เพื่อสื่อถึงภูมิทัศน์ที่นักรบได้ทำวีรกรรมสำคัญ นอกจากนี้ ตัวเรือนขนาด 41 มม. และหัวเข็มขัดยังถูกแกะสลักด้วยมืออย่างเต็มรูปแบบโดยใช้เทคนิค taille-douce (การแกะลายเส้น) ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 160 ชั่วโมงต่อตัวเรือน
  • กลไกและการแสดงผล: นาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 1731 ซึ่งเป็นกลไก มินิทรีพีทเตอร์ (Minute Repeater) ที่บางเฉียบ (Ultra-thin) และผลิตโดยเมซงเอง กลไกนี้มีความหนาเพียง 3.9 มม. ประกอบด้วยชิ้นส่วน 265 ชิ้น และมีพลังงานสำรอง 65 ชั่วโมง เสียงตีบอกเวลาของกลไกมินิทรีพีทเตอร์นี้ถูกเปรียบเสมือนการส่งสัญญาณแห่งชัยชนะของนักรบที่ปรากฏบนหน้าปัด

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
ประวัติโดยย่อของทูร์บิญอง (Tourbillon)
นาฬิกากับบทบาทในโลกภาพยนตร์และซีรีส์ : โอกาสแจ้งเกิดอันทรงพลังบนหน้าจอ
Arnold & Son Globetrotter 42 Steel เมื่อตำนานโครโนมิเตอร์ถูกสลักลงบนหน้าปัดที่กะทัดรัดยิ่งขึ้น

Share post:

More like this

Bell & Ross BR-03 GMT COMPASS เรื่องราวของเครื่องมือนำทางบนข้อมือ

Bell & Ross BR-03 GMT Compass นำเสนอนาฬิกาที่มีความสามารถในการระบุทิศทาง โดยใช้หน้าปัดสเกลเข็มทิศร่วมกับเข็ม GMT ดีไซน์ตัวเรือนสี่เหลี่ยม 42 มม. อันเป็นเอกลักษณ์ของ Bell & Ross

Citizen เผยโฉม Series8 880 GMT และ 890 รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น แรงบันดาลใจจากความงามของทิวทัศน์เมืองในญี่ปุ่น

Citizen เปิดตัว Series8 880 GMT และ 890 Limited Editions ด้วยดีไซน์แรงบันดาลใจจากเมืองญี่ปุ่น พร้อมกลไก GMT, Anti-Magnetic และฟังก์ชั่นสำหรับนักเดินทาง

Arnold & Son Globetrotter 42 Steel เมื่อตำนานโครโนมิเตอร์ถูกสลักลงบนหน้าปัดที่กะทัดรัดยิ่งขึ้น

Arnold & Son Globetrotter 42 Steel นำความพิเศษของคอลเลกชัน Globetrotter มาในขนาด 42 มม. กะทัดรัดยิ่งขึ้น มีให้เลือกสองแบบ 'Strand Blue' และ 'Greenwich Green' รุ่นละ 88 เรือน ขับเคลื่อนด้วยกลไก In-house A&S6122 พร้อมโดมโลก 3 มิติ

จากแฟชั่นเฮาส์สู่ผู้สร้างสรรค์เวลา นิยามที่ถูกตีความใหม่ผ่านเส้นสาย แสง และเงาผ่านเรือนเวลา Hermès Cut

Hermès Cut คือ "วัตถุแห่งการสร้างสรรค์" ที่ถือกำเนิดจากการ "ตัด" อย่างเด็ดขาดบนรูปทรงกลม ตัวเรือน 36 มม. ขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture Hermès H1912 และมอบอิสระในการแสดงออกด้วยระบบถอดเปลี่ยนสายได้