เมื่อเวลาถูกขับเคลื่อนด้วยความสง่างาม Atlas Watch โฉมใหม่จาก Tiffany & Co.
คุณเคยยืนอยู่ใจกลางมหานครนิวยอร์ก แล้วสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ไม่เคยหยุดนิ่งไหม? ทุกนาทีมีค่า ทุกการเคลื่อนไหวมีความหมาย นั่นแหละคือ “New York Minute” ที่ Tiffany & Co. เข้าใจเป็นอย่างดี และในวันนี้ แบรนด์ได้นำนาฬิกา Atlas Watch กลับมาอีกครั้ง เพื่อตอบโจทย์จังหวะชีวิตที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยคุณค่าในแบบฉบับปี 2025
เรื่องราวของ Atlas Watch ไม่ได้เริ่มต้นที่ตัวเรือนนาฬิกา แต่ย้อนกลับไปในปี 1853 เมื่อ ชาร์ลส์ ลูอิส ทิฟฟานี่ ผู้ก่อตั้งแบรนด์อัญมณีระดับโลก ได้ติดตั้งนาฬิกาเรือนมหึมาเหนือประตูทางเข้าของร้านบนถนนบรอดเวย์ แน่นอนว่าตัวนาฬิกาเองก็สวยงามตามแบบฉบับคลาสสิก ด้วยเลขอารบิกและเข็มนาฬิกาที่วิจิตรบรรจง แต่สิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งนิวยอร์กอย่างแท้จริงคือ เทพแอทลาส ผู้แบกโลกตามตำนานเทพปกรณัม ที่กำลังทำหน้าที่แบกรับนาฬิกาเรือนยักษ์นี้ไว้บนบ่า

ย้อนวันวานสู่ปี 1940 เทพแอทลาสยังคงยืนหยัดอย่างสง่างาม ณ ฟิฟท์อเวนิว สัญลักษณ์แห่งเวลาและตำนานของ Tiffany & Co. ที่ยังคงส่องประกายมาจนถึงทุกวันนี้
ในโลกของ Tiffany & Co. แอทลาสไม่ได้แบกโลก เขากำลังดูแล “เวลา” และนั่นทำให้ประติมากรรมชิ้นนี้กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะย้ายมาประจำการ ณ ร้านบนถนนฟิฟท์อเวนิวในปี 1940 และยังคงยืนหยัดอย่างสง่างามมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยความสำคัญและเรื่องราวที่ยาวนานของนาฬิกาแห่งไททันเรือนนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่มันจะเป็นแรงบันดาลใจอันไม่สิ้นสุดให้กับ Tiffany & Co. มาโดยตลอด และล่าสุดคือการตีความ Atlas Watch ขึ้นมาใหม่ ในสามขนาดและเจ็ดเวอร์ชันที่แตกต่างกัน เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน
จากอดีตสู่ปัจจุบัน การเดินทางของ Atlas Watch
ก่อนที่จะดำดิ่งสู่รายละเอียดของ Atlas Watch โฉมใหม่นี้ ควรเล่าถึงการเดินทางของคอลเลคชันนี้สักเล็กน้อย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นาฬิกา Atlas ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาเรือนสำคัญนั้น ในยุค 80s เคยมีการนำเสนอในรูปแบบที่สะท้อนยุคสมัยนั้นอย่างชัดเจน ด้วยหน้าปัดที่เรียบง่ายและขอบหน้าปัดสลักเลขอารบิกแบบนูนต่ำ จากนั้นในช่วงกลางยุค 90s คอลเลคชันก็ได้รับการขยับขยาย โดยยังคงรักษาดีไซน์พื้นฐานเดิมไว้

เมื่อตำนานถูกถ่ายทอดสู่ข้อมือ: Atlas Watch ในปี 1983 กับดีไซน์ที่สะท้อนยุคสมัยอย่างชัดเจน ก่อนจะกลับมาพลิกโฉมอีกครั้งในวันนี้
รูปโฉมใหม่ที่ยังคงหัวใจเดิม Atlas Watch 2025
มาถึงวันนี้ Atlas Watch โฉมใหม่ปี 2025 ได้นำเอาเสน่ห์ดั้งเดิมมาผสมผสานเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว หัวใจสำคัญของ Atlas คือ เลขอารบิก ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ได้ถูกย้ายมาอยู่บนหน้าปัด แต่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างมีสไตล์ โดยเว้าลึกเข้าไปในวงแหวนด้านนอกที่กว้างขวางล้อมรอบส่วนกลางของหน้าปัด ทำให้เกิดมิติและความลึกที่น่าสนใจ
สำหรับขนาดของตัวเรือน มีให้เลือกถึง 3 ขนาด ได้แก่ 29 มม. ถัดมาคือขนาด 34 มม. และ 38 มม. ทั้งหมดมาในตัวเรือนสเตนเลสสตีล รุ่นขนาดเล็กมีตัวเลือกขอบหน้าปัดประดับเพชรให้เลือกด้วย และทุกรุ่นมาพร้อมกับสายนาฬิกาแบบ Integrated Bracelet ที่ผสานเข้ากับตัวเรือนอย่างลงตัว โดยมีข้อต่อด้านในเป็นแบบขัดเงา
ในด้านกลไกการทำงาน รุ่นที่เล็กที่สุดขับเคลื่อนด้วยกลไกโซลาร์จาก La Joux-Perret ส่วนรุ่นอื่นๆ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มาพร้อมกับ กลไกอัตโนมัติ Swiss-made มั่นใจได้ในเรื่องความเที่ยงตรงและประสิทธิภาพการทำงาน และยังทนทานต่อแรงดันน้ำได้ถึง 100 เมตรอีกด้วย เมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติเหล่านี้ Atlas Watch จึงเป็นนาฬิกาที่แข็งแกร่งและน่าสนใจสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง
แน่นอนว่าสำหรับหลายๆ คน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของนาฬิการุ่นนี้คงหนีไม่พ้น หน้าปัด แม้จะมีตัวเลือกหน้าปัดสีเงินที่ดูสุภาพ แต่ถ้ากำลังมองหานาฬิกาจาก Tiffany & Co. จริงๆ แล้วล่ะก็ หน้าปัดสี Tiffany Blue อันเป็นเอกลักษณ์ คือสิ่งที่ต้องมี เป็นสีที่เลียนแบบกันมากมาย แต่ไม่เคยมีใครทำได้ดีเท่าต้นฉบับเลยจริงๆ
ดูเหมือนว่า Tiffany & Co. ภายใต้การบริหารของ LVMH เพิ่งเริ่มต้นการเดินทางในโลกแห่งนาฬิกาอย่างจริงจัง แต่สัญญาณแรกๆ ที่ได้เห็นนั้นช่างน่าตื่นตาตื่นใจและเปี่ยมไปด้วยศักยภาพจริงๆ แล้วสำหรับคุณผู้อ่านคิดว่า Atlas Watch โฉมใหม่นี้ จะกลายมาเป็นอีกหนึ่งไอคอนบนข้อมือในแบบฉบับของคุณได้หรือไม่?

ข้อมูลทางเทคนิค
Tiffany & Co. Atlas Watch (2025)
- ชื่อรุ่น: Tiffany & Co. Atlas Watch
- ตัวเรือน: สเตนเลสสตีล มีให้เลือก 3 ขนาด (29 มม., 34 มม., 38 มม.) โดยรุ่นขนาดเล็กมีตัวเลือกขอบหน้าปัดประดับเพชร
- หน้าปัด: ดีไซน์เลขอารบิกแบบเว้าลึกในวงแหวนรอบนอก มีทั้งหน้าปัดสีเงิน และสี Tiffany Blue อันเป็นเอกลักษณ์
- ฟังก์ชัน: แสดงเวลา (ชั่วโมง, นาที, วินาที), กันน้ำลึก 100 เมตร เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- กลไก: รุ่น 29 มม. กลไกโซลาร์ La Joux-Perre ส่วนรุ่น 34 มม. และ 38 มม. มาพร้อมกลไกอัตโนมัติ Swiss-made (Automatic)
- สาย: Integrated Bracelet ทำจากสเตนเลสสตีล พร้อมข้อต่อด้านในแบบขัดเงา
อ่านบทความน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
เมื่อหมู่ดาวพร่างพราวบนข้อมือ Vacheron Constantin Métiers d’Art Tribute to The Celestial
Cartier Panthère Jewellery Watch เมื่อสถาปัตยกรรมแห่งเวลาถูกรังสรรค์ให้มีชีวิต

