Patek Philippe at Watches and Wonders 2025

Date:

พบกับ Patek Philippe ใน Watches and Wonders 2025 พร้อมด้วยรุ่น Calatrava Pilot Travel Time และ Ladies’ Nautilus

WORDS Tracey Llewellyn

Calatrava Pilot Travel Time Ref. 5524G

เปิดตัว Calatrava Pilot Travel Time รุ่นแรกในปี 2015 เป็นนาฬิกาที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติแก่นาฬิกาสำหรับนักบินที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Patek Philippe Museum ณ กรุงเจนีวา รวมถึงนาฬิกาสไตล์ Military ที่แบรนด์เคยผลิตในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2

ย้อนเวลาไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนที่นาฬิกาเรือนนี้เปิดตัวครั้งแรก มันเป็นเรือนเวลาที่สร้างความประหลาดใจให้กับวงการอย่างมาก เนื่องจาก Patek Philippe เป็นที่รู้จักจากรุ่นสปอร์ตอย่าง Nautilus และ Aquanaut รวมถึงรุ่นที่โชว์ความหรูหราสไตล์คลาสสิกอย่าง Calatrava แต่เมื่อการปรากฎโฉมของ Pilot Travel Time เกิดขึ้นนั้นจึงเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากๆ อีกทั้งยังสร้างกระแสให้กับนักสะสมและผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ซึ่งในปัจจุบันนาฬิการุ่นนี้ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันหลักของแบรนด์ และกลายเป็นคอลเลกชั่นที่หลายคนเฝ้ารอ

Patek Philippe at Watches and Wonders 2025
Patek Philippe Calatrava Pilot Travel Time Ref. 5524G-010 ได้รับแรงบันดาลใจจากสายรัดผ้าของนักบิน โดยมาพร้อมสายคอมโพสิตสีเขียวทหารลายทอที่ให้ลุคแข็งแกร่ง พร้อมตัวล็อกไวท์โกลด์แบบ Clevis Prong Buckle เพิ่มความคลาสสิกและใช้งานได้อย่างมั่นคง

Calatrava รุ่นดั้งเดิม Ref. 5524G มาพร้อมกับตัวเรือนไวท์โกลด์ ตัดกับหน้าปัดสีน้ำเงิน จากนั้นในปี 2018 ก็มีการเปิดตัวรุ่น Ref. 5524R ที่มาพร้อมกับตัวเรือนโรสโกลด์และหน้าปัดสีน้ำตาล-ดำ ตอบโจทย์แนวคิดที่ว่า “นาฬิกาที่ใช้งานได้จริงในยุคสมัยใหม่” แม้ว่าจะมีการประกาศยกเลิกผลิตรุ่น 5524G ไปเมื่อต้นปีนี้ไปก็ตาม จึงทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่า Patek Philippe กำลังปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเอง แต่ที่แท้จริงนั้น มันคือการเปิดทางให้กับสิ่งใหม่ที่น่าตื่นเต้นกว่านั่นเอง

ในปี 2025 Calatrava Pilot Travel Time ได้รับการดีไซน์แบบออลนิว ด้วยตัวเรือนไวท์โกลด์ขนาด 42 มม. โอบล้อมหน้าปัดแลคเกอร์สีไอโวรี่ที่ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลและคลาสสิกยิ่งขึ้น และยังคงให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์เชิงเทคนิคในสไตล์นักบินมากกว่าความหรูหราแบบตะโกนและฉูดฉาด โดยตัวเลขที่ทำจากไวท์โกลด์ได้เคลือบสารเรืองแสง เช่นเดียวกับเข็มบอกเวลาหลักทรงดาบทำให้เพิ่มวิสัยทัศน์การมองเห็นที่ชัดเจนมากขึ้นในที่แสงน้อย

ภายในตัวเรือนติดตั้งกลไก Calibre 26-330 S C FUS ซึ่งช่วยให้เข็มบอกเวลา Local Time สามารถปรับเลื่อนไปข้างหน้าหรือย้อนกลับทีละชั่วโมงผ่านเม็ดมะยมแบบขันเกลียวสองตัวทางด้านซ้ายของตัวเรือน การเปลี่ยนแปลงเวลานี้ยังส่งผลต่อการอัปเดตวันที่โดยอัตโนมัติที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ส่วนเวลา Home Time จะแสดงผ่านเข็มสเกเลตัน และมีหน้าต่างบอกกลางวัน/กลางคืนสำหรับทั้งสองไทม์โซนที่ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา

ข้อมูลทางเทคนิค
Patek Philippe Calatrava Pilot Travel Time Ref. 5524G-010

กลไก: อัตโนมัติ Calibre 26-330 S C FUS สำรองพลังงาน 35-45 ชั่วโมง
ฟังก์ชัน: ชั่วโมง / นาที / วินาที / วันที่ / สองเขตเวลา / แสดงกลางวัน / กลางคืน
ตัวเรือน: ไวท์โกลด์ ขนาด 42 มม. หนา 10.78 มม. กันน้ำลึก 30 เมตร
หน้าปัด: สีงาช้าง / ตัวเลขไวท์โกลด์เคลือบดำและเรืองแสง / เข็มทรงดาบสีเทาชาร์โคลเคลือบสารเรืองแสง
สายนาฬิกา: วัสดุคอมโพสิตลายผ้า สีเขียวขี้ม้า พร้อมตัวล็อกแบบ Clevis Prong Buckle

Ladies’ Nautilus Ref. 7010G

นาฬิกา Ladies’ Nautilus เปิดตัวครั้งแรกในปี 1980 เพียง 4 ปีหลังจากรุ่นของสุภาพบุรุษ โดยในขณะนั้นทางแบรนด์ส้รางสรรค์ออกมาด้วยตัวเรือนขนาด 27 มม. ร่วมกับกลไกควอตซ์ ซึ่งต่อมาในปี 1981 ก็มีการเพิ่มรุ่นขนาด 33 มม. ตอบโจทย์ตลาดนาฬิกาแบบยูนิเซ็กซ์ได้เป็นอย่างดี

ตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา Ladies’ Nautilus ได้รับการพัฒนาในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นขนาดตัวเรือน, วัสดุ, สีสัน หรือการประดับเพชร แต่ไม่ว่าการออกแบบจะเปลี่ยนไปเช่นไร นาฬิการุ่นนี้ก็ยังคงเป็นหนึ่งในรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Patek Philippe อยู่ดี โดยในปี 2023 Nautilus รุ่นสำหรับสุภาพสตรีได้รับการปรับโฉมใหม่ ด้วยตัวเรือนโรสโกลด์ขนาด 32 มม. พร้อมขอบตัวเรือนประดับเพชร ที่โดดเด่นสะกดทุกสายตาด้วยหน้าปัดสีม่วงเข้มที่หรูหรา และมีให้เลือกทั้งสายคอมโพสิตสีที่แมตช์กัน หรือสายโลหะโรสโกลด์

Patek Philippe at Watches and Wonders 2025
Ladies’ Nautilus Ref. 7010G-013 มาพร้อมตัวเรือนไซซ์กะทัดรัดที่บรรจุกลไกควอตซ์ Calibre E 23-250 S C มอบความเที่ยงตรงและความสะดวกสบายในการใช้งาน พร้อมดีไซน์หรูหราที่สะท้อนความสง่างามในทุกมิติ

สำหรับปี 2025 นี้ Nautilus ได้รังสรรค์คอลเลกชั่นใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่าเดิม ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายของ Jules Verne เรื่อง 20,000 Leagues Under the Sea (สองหมื่นโยชน์ใต้ทะเล) โดยมาพร้อมกับตัวเรือนไวท์โกลด์ จับคู่กับหน้าปัดสีน้ำเงินแบบไล่เฉดที่มีลวดลายคลื่นทะเล ประดับด้วยเพชร 46 เม็ดบริเวณขอบตัวเรือน สายนาฬิกามีให้เลือกทั้งแบบสายคอมโพสิตสีน้ำเงินที่เข้ากับหน้าปัด หรือสายโลหะไวท์โกลด์

ข้อมูลทางเทคนิค
Patek Philippe Ladies’ Nautilus Ref. 7010G-013

กลไก: ควอตซ์ Calibre E 23-250 S C
ฟังก์ชัน: ชั่วโมง / นาที / วินาที / วันที่
ตัวเรือน: ไวท์โกลด์ ขนาด 32 มม. หนา 6.9 มม. ขอบประดับเพชร กันน้ำลึก 30 เมตร
หน้าปัด: สีน้ำเงินลายคลื่น / ตัวเลขไวท์โกลด์เคลือบสารเรืองแสง / เข็มทรงอัลฟาไวท์โกลด์เคลือบสารเรืองแสง
สายนาฬิกา: วัสดุคอมโพสิตสีน้ำเงินลายผ้า หรือสายโลหะไวท์โกลด์ พร้อมตัวล็อกแบบพับ

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในโลกเรือนเวลาสุดล้ำได้ที่ Revolution Thailand แหล่งรวมแรงบันดาลใจสำหรับนักสะสมนาฬิกาตัวจริง

ภาพ / ที่มา:Revolution

Share post:

More like this

ความเรียบง่าย  ฟังก์ชัน และงานฝีมืออันเป็นเลิศ Laurent Ferrier Classic Auto Horizon

เจาะลึกรายละเอียดน่าสนใจใน Laurent Ferrier Classic Auto Horizon นับตั้งแต่ Laurent Ferrier ได้ก่อตั้งแบรนด์นาฬิกาอิสระโดยใช้ชื่อของตัวเองที่นครเจนีวา...

H. Moser & Cie. อัพเดตคอลเลกชัน Streamliner ด้วยนาฬิกาโครโนกราฟ 2 เวอร์ชัน

H. Moser & Cie. Streamliner Flyback Chronograph Automatic Frozen ความมินิมัลนั้นกลายเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกา...

การกลับมาของ Frederique Constant Classic QP พร้อมดีไซน์ที่เปี่ยมไปด้วยความประณีต

Frederique Constant เปิดตัว Classic Perpetual Calendar รุ่นใหม่ที่ Watches and Wonders 2025 พร้อมการปรับดีไซน์ที่ละเอียดอ่อนและกลไก FC-776 automatic movement ที่ให้ความเสถียรและน่าเชื่อถือมากขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานจริงด้วยพลังงานสำรอง 72 ชั่วโมง

Alpina เปิดตัวสุดยอดนาฬิกาที่จะสะกดทุกสายตาในงาน Watches and Wonders 2025 

Alpina เปิดตัวสองรุ่นใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจในงาน Watches and Wonders 2025 ซึ่งรวมถึง Alpiner Extreme Automatic Ice Blue และ Alpina Heritage Tropic-Proof Handwinding ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบคลาสสิกในปี 1965 พร้อมกับการพัฒนาและฟีเจอร์ที่ทันสมัย