รวมไฮไลต์จี๊ดจากแบรนด์หรู ที่แต่งแต้มสีสันให้ฤดูร้อนของคุณมีชีวิตชีวากว่าที่เคย กับนาฬิกาสีสันสดใสสำหรับซัมเมอร์
มัดรวมเรือนเวลาที่เต็มไปด้วยความสดใส และสีสันอันเจิดจ้า พร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย รวมถึงแรงบันดาลใจที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าสนใจ ที่จะทำให้ซัมเมอร์นี้ของคุณแฮปปี้ไม่แพ้ซีซั่นไหนๆ

OMEGA Seamaster AQUA TERRA 150M
เริ่มต้นด้วยความสดใสของเฉดสีแห่งมหาสมุทรจาก OMEGA คอลเลกชัน Seamaster Aqua Terra ด้วยหน้าปัดสีเขียวเทอร์คอยซ์อันโดดเด่นสุดสะดุดตา โดยได้แรงบันดาลใจจากความงดงามของท้องทะเล พร้อมดีไซน์ร่วมสมัยที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยในโลกใต้น้ำ
ตัวเรือนและสายผลิตจากสแตนเลสสตีลคุณภาพสูง ขัดเงาสลับด้าน มาพร้อมระบบปรับสายที่สะดวกใช้งาน หน้าปัดเคลือบแลคเกอร์สีเทอร์คอยซ์ ที่มาพร้อมกับเอฟเฟกต์ไล่เฉดสีดำ เข็มทรงเหลี่ยมและหลักชั่วโมงเคลือบ PVD สีเทาบรรจุสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาว เพื่อความคมชัดแม้ในที่แสงน้อย
ขณะที่โลโก้ OMEGA และช่องแสดงวันที่ก็ถูกตกแต่งด้วย PVD สีเทาให้กลมกลืนกับดีไซน์โดยรวม ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับ OMEGA Co-Axial Master Chronometer ที่ได้รับการรับรองจาก METAS (สถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของวงการนาฬิกาสวิส ทั้งด้านความเที่ยงตรง ความทนทานต่อสนามแม่เหล็กสูงถึง 15,000 เกาส์ และความเสถียรในการใช้งาน สำหรับรุ่นตัวเรือนขนาด 38 มม. และ 41 มม.
- รุ่น 38 มม. (รหัส 220.10.38.20.03.005) ขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 8800 สำรองพลังงานได้สูงสุด 55 ชั่วโมง
- รุ่น 41 มม. (รหัส 220.10.41.21.03.006) มาพร้อมกลไก Calibre 8900 ที่มีกำลังสำรองสูงสุด 60 ชั่วโมง
เป็นคอลเลกชันที่สะท้อน และเชื่อโยงกับท้องทะเลซึ่งเป็นหัวใจของ OMEGA ได้อย่างสง่างาม ทั้งในแง่ดีไซน์และสมรรถนะ กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่มองหานาฬิกาสปอร์ตหรูที่ลงตัวทั้งในชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ
ข้อมูลทางเทคนิค
Seamaster AQUA TERRA 150M
- ขนาดขานาฬิกา: 20 มม.
- ความยาวรวมขาสาย: 47.9 มม.
- ความหนา: 13.3 มม.
- ระบบกลไก: คาลิเบอร์ OMEGA 8900 ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
- พลังงานสำรอง: สูงสุด 60 ชั่วโมง
- การกันน้ำ: ระดับ 15 บาร์ (150 เมตร / 500 ฟุต)
- น้ำหนักโดยประมาณ: 150 กรัม

เพิ่มดีกรีความเร้าใจให้กับซัมเมอร์สุคฮอตด้วยสีชมพูนีออนจากหน้าปัดของ TAG Heuer Monaco Chronograph Ref. CBL218B.FT6236 เรือนเวลาที่สะท้อนสีสันแห่งลาสเวกัส ถ่ายทอดผ่านหน้าปัด Skeleton สีชมพูสดใส ตัดกับตัวเรือนไทเทเนียมเกรด 2 เคลือบ DLC สีดำ ขนาด 39 มม.
ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพลังแห่งแสง สี และจังหวะแห่งชีวิตของ Las Vegas Grand Prix ตัวเรือนดีไซน์โฉบเฉี่ยว น้ำหนักเบา มาพร้อมสายหนังและยาง ให้สัมผัสสบายขณะสวมใส่ พร้อมกลไก Calibre Heuer 02 แบบอัตโนมัติที่ผลิตโดย TAG Heuer เองสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง โดดเด่นด้วย Column Wheel ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และตุ้มน้ำหนักตกแต่งสีชมพูที่มองเห็นได้ผ่านหน้าปัดแบบโปร่งใส
หน้าปัด Skeleton แสดงกลไกอย่างชัดเจน เพิ่มลูกเล่นด้วยสีชมพูบนหน้าปัดย่อยตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา เข็มนาฬิกา และเข็มโครโนกราฟ โดดเด่นด้วยดีไซน์ร่วมสมัยที่กล้าท้าทายกรอบเดิมๆ ของนาฬิกาสปอร์ตหรู และมีสไตล์
คอลเลกชั่นโครโนกราฟที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณของมอเตอร์สปอร์ต แต่ยังเชื่อมโยงกับเรือนเวลาต้นแบบในอดีตที่เปิดตัวในปี 1969 และสร้างชื่อด้วยดีไซน์สี่เหลี่ยมอันโดดเด่น ร่วมด้วยความผูกพันกับภาพยนตร์ Le Mans ที่ Steve McQueen สวมใส่ในภาพยนต์อีกด้วย
ข้อมูลทางเทคนิค
TAG Heuer Monaco Chronograph
- Ref: CBL218B.FT6236
- ตัวเรือน: DLC Titanium ขัดทราย ขนาด 39 มม. หน้าปัดสีชมพูสุดโดดเด่น มาพร้อมสายยางผสานหนังลายผ้า สีดำ ฝาหลังแซฟไฟร์เคลือบ DLC สุดเท่ พร้อมบัคเคิลแบบพับระบบปุ่มกด
- กลไก: อัตโนมัติ In-House TH20-00
- พลังงานสำรอง: 80 ชม.
- ฟังก์ชัน: เวลา วันที่ จับเวลา (1/4 / วินาที 30 / นาที 12 ชม.)
- ความถี่: 28,800 ครั้ง/ชม.
- กันน้ำ: 100 เมตร
- ความหนา: 13.8 มม. | Lug: 22 มม.
Tudor Black Bay Ceramic “Blue”
เหมือนเราจะยังคงไม่มูฟออนจากการแข่งขัน F1 สนาม Las Vegas Grand Prix เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสีสันที่เข้ากับซัมเมอร์อันสดใส โดยครั้งนี้เป็นเรือนเวลาสีจัดจ้าน ฟ้าสดใสไล่ไปถึงเขียวนีออนอ่อนๆ ของ Tudor รุ่นพิเศษฉลอง F1 Las Vegas Grand Prix
โดยเป็นนาฬิกาที่ใช้พื้นฐานจากรุ่น Heritage Black Bay Ceramic เพิ่มความโดดเด่นด้วยหน้าปัดและสายสีใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแสงสีอันเจิดจ้าของเมืองลาสเวกัส ดีไซน์สะท้อนเอกลักษณ์ของเมืองคนบาปอย่างลาสเวกัส อีกทั้งยังใช้เฉดสีขาวมาสร้างสรรค์เป็นประกายแสง ที่เปรียบเหมือนแสงไฟตามอาคารบ้านเรือน และยังสอดคล้องกับสีของตัวถังรถแข่งของทีม Visa Cash App Racing Bull ซึ่ง Tudor เป็นผู้สนับสนุนหลักอีกด้วย
โดยนาฬิการุ่นนี้ถูกสวมใส่โดยนักแข่ง Liam Lawson และ Yuki Tsunoda ระหว่างการแข่งขัน เพื่อเป็นการโปรโมตและตอกย้ำความสัมพันธ์ของแบรนด์กับโลกมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก

ข้อมูลทางเทคนิคของ
Tudor Black Bay Ceramic “Blue”
- หมายเลขอ้างอิง: 79210CNU-0007
- ตัวเรือน: เซรามิกสีดำด้าน ขนาด 41 มม. พร้อมฝาหลังแบบเปิดที่ทำจากสตีล 316L เคลือบ PVD สีดำ
- หน้าปัด: สีน้ำเงินทรงโดม พร้อมเข็มทรง Snowflake และสารเรืองแสง Super-LumiNova X1 ขอบตัวเรือนหมุนได้ทิศทางเดียว ทำจากสตีล 316L เคลือบ PVD สีดำ พร้อมแผ่นเซรามิกสีดำลายซันเรย์
- กระจก: แซฟไฟร์ทรงโดม
- เม็ดมะยม: แบบขันเกลียว ทำจากสตีล 316L เคลือบ PVD สีดำ พร้อมโลโก้ดอกกุหลาบ Tudor นูน
- กลไก: MT5602-1U ระบบอัตโนมัติ In-House พร้อมโรเตอร์แบบหมุนสองทิศทาง
- ความถี่: 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง (4Hz) พลังงานสำรอง 70 ชั่วโมง
- สาย: สายไฮบริดหนังและยาง พร้อมตะเข็บสีฟ้า และหัวเข็มขัดแบบพับทำจากสตีล 316L เคลือบ PVD สีดำ สายผ้าสีดำพร้อมแถบกลางสีน้ำเงิน การกันน้ำ 200 เมตร

Mido Commander 1959 Pixel Dial
หากคุณหลงรักสีสันของความโมเดิร์นวินเทจ ซัมเมอร์นี้คุณควรต้องมี Mido Commander 1969 Pixel Dial ไว้ในครอบครอง เรือนเวลาสุดคลาสสิกที่เปล่งประกายความสดใสด้วยพลังพิกเซล เรือนเวลาที่ผสมผสานกลิ่นอายวินเทจกับความสนุกของ Pixel Art หน้าปัดสีดำแต่งแต้มด้วยสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีชมพูและน้ำเงิน พร้อมพรายน้ำ Super-LumiNova® ที่เปล่งประกายในความมืด สร้างลุคสะดุดตาทั้งกลางวันและกลางคืน
ดีไซน์ได้แรงบันดาลใจจาก Commander รุ่นดั้งเดิมปี 1959 มาพร้อมตัวเรือนโมโนค็อกขัดเงา เส้นผ่านศูนย์กลาง 37 มม. ขอบหน้าปัดแบบมินิมอล และกระจกอะคริลิก ประกอบกับสายสแตนเลสแบบถักสไตล์ Milanese ให้ความรู้สึกวินเทจอย่างแท้จริง
หัวใจของนาฬิกาคือกลไก Caliber 80 (พื้นฐานจาก ETA C07.621) พร้อมบาลานซ์สปริง Nivachron™ สำหรับต้านสนามแม่เหล็ก และพลังงานสำรองยาวนานถึง 80 ชั่วโมง ขัดแต่งลาย Côtes de Genève พร้อมโรเตอร์ประทับโลโก้ Mido สวยงามตามแบบฉบับนาฬิกาเกรด Elabore
ข้อมูลทางเทคนิค
Mido Commander 1959 Pixel Dial
- Ref: M8429.4.N7.11
- ตัวเรือน: สแตนเลสชิ้นเดียว 37 มม. หนา 10.5 มม.
- กระจก: อะคริลิกพิมพ์โลโก้ MIDO
- กันน้ำ: 50 เมตร
- หน้าปัด: ไล่สีพิกเซลน้ำเงิน-ชมพู พร้อม Super-LumiNova
- เข็ม & หลักชั่วโมง: ขัดเงา เคลือบเรืองแสง
- กลไก: Caliber 80 อัตโนมัติ | 80 ชม. พลังงานสำรอง | Nivachron
- สาย: สแตนเลส Milanese mesh พร้อมตัวล็อกแบบเลื่อน
BR-X5 Iridescent 41 MM
ปิดท้ายสีสันสดใสจากซัมเมอร์กับ สีรุ้งสุดล้ำ บนหน้าปัดทรงเหลี่ยมของ Bell & Ross BR-X5 Iridescent โดยเป็นการเปิดตัวหลังจากที่รุ่น BR-X5 Racing ออกสู่ตลาดไปได้ไม่นาน ซึ่งเป็นคอลเลกชันที่พัฒนาบนพื้นฐานของรุ่น BR-X5 เดิม แต่เพิ่มเติมที่ลูกเล่นเรื่องสีสันอันโดดเด่นสะดุดตา หน้าปัดของรุ่นนี้ผ่านกระบวนการเคลือบ PVD หลายชั้น
สร้างเอฟเฟกต์สะท้อนแสงได้มากถึง 50 เฉดสี ขึ้นอยู่กักบมุมแสงและการเคลื่อนไหวของข้อมือ เปรียบได้กับสีสันของปีกผีเสื้อหรือเกล็ดปลาทะเล โดดเด่นสวยงามด้วยหน้าปัดแบบซันเรย์มาพร้อมโทน น้ำเงิน เขียว เหลือง และม่วง ที่เปลี่ยนเฉดตามแสงที่ตกกระทบ เสริมความโดดเด่นสะกดสายตาด้วยขอบ Inner Ring สีรุ้งแบบเดียวกัน
ตัวเรือนทรงเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของ BR-X5 ถูกลบเหลี่ยมมุมให้มีความโค้งมน ใส่ง่าย และดูทันสมัย ตัวเรือนขนาด 41 มม. ผลิตจาก สเตนเลสสตีล โครงสร้างแบบ Sandwich (Multi-Layer Construction) อันเป็นดีไซน์เฉพาะของแบรนด์มีให้เลือก 2 รุ่นคือ BRX5R-IRS-ST/SST มาพร้อมกับสายสแตนเลสสตีล และBRX5R-IRS-ST/SRB ที่ใช้สายรับเบอร์สีขาว

ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก BR-Cal.323 อัตโนมัติ จาก Kenissi ผู้ผลิตกลไกระดับสูง มอบกำลังสำรองถึง 3 วัน และผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับ Chronometer หน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา แสดงระดับพลังงานสำรอง
คอลเลกชัน BR-X5 Iridescent นี้จึงถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ BR-X5 ในปี 2022 ที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ผสานความทันสมัยของดีไซน์เข้ากับเทคโนโลยี อีกทั้งยังเพิ่มมิติด้าน “อารมณ์” ด้วยสีสันที่เปลี่ยนไปตามมุมมอง และการตกกระทบของแสง ซึ่งไม่เพียงสื่อถึงความสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังแสดงออกถึงบุคลิกของผู้สวมใส่ได้อย่างชัดเจน
ข้อมูลทางเทคนิค
BR-X5 Iridescent 41 MM
- กลไก: Calibre BR-CAL.323 (อัตโนมัติ) พลังงานสำรองประมาณ 70 ชั่วโมง
- ฟังก์ชัน: ชั่วโมง / นาที / วินาที / วันที่ (ตำแหน่ง 3 นาฬิกา) / ตัวบ่งชี้พลังงานสำรอง (ตำแหน่ง 9 นาฬิกา)
- ตัวเรือน: สตีลขัดเงาและขัดด้าน ขนาด 41 มม. หนา 12.8 มม. เม็ดมะยมขันเกลียว + การ์ดเม็ดมะยม ฝาหลังโชว์กลไก (Sapphire Case-back)
- หน้าปัด: สีเขียวถึงม่วงเงา หลักชั่วโมงและเข็มสเกเลตันชุบโรเดียม เคลือบ Super-LumiNova® เข็มวินาทีสีขาวแบบกึ่งด้าน
- กระจก: แซฟไฟร์เคลือบกันแสงสะท้อน การกันน้ำ 100 เมตร
- สาย: สตีลขัดเงา/ขัดด้าน หรือยางสีขาว บานพับสตีลขัดเงา/ขัดด้าน
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในโลกเรือนเวลาสุดล้ำได้ที่ Revolution Thailand แหล่งรวมแรงบันดาลใจสำหรับนักสะสมนาฬิกาตัวจริง
(ที่มา: คลังข้อมูล Bell & Ross / Mido / Tudor / TAG Heuer / OMEGA )

