การเคลื่อนไหวอันงดงามที่มาพร้อมกับศิลปะของการประดิษฐ์กลไกอันซับซ้อนใน ‘Round Triple Mystery’ จากแฟรงค์ มุลเลอร์
ที่เจนีวา เมืองหลวงแห่งศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกา แฟรงค์ มุลเลอร์ ได้รังสรรค์เรือนเวลา Round Triple Mystery ที่ไม่เพียงท้าทายขนบการบอกเวลาแบบเดิม หากยังตีความ ‘วินาที’ ให้กลายเป็นผลงานศิลป์อันซับซ้อนและน่าหลงใหล ยกระดับกลไกแห่งกาลเวลาให้ล่องลอยไปพร้อมเพชรที่หมุนตัวอยู่เหนือจานสเกเลตันสุดบางเฉียบ
นี่ไม่ใช่นาฬิกา… แต่มันคือบทกวีแห่งกลไกและความลึกลับของกาลเวลา เตรียมสัมผัสความงดงามของการเคลื่อนไหวอันเปี่ยมจังหวะ ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่เบื้องหลังการประดิษฐ์สุดล้ำ ที่สะกดทุกสายตาและหัวใจ

เจนีวา เมืองแห่งความคลาสสิกและนวัตกรรม
ที่นี่เองคือบ้านของ Franck Muller แบรนด์นาฬิกาที่ไม่ได้แค่ทำตามสูตรเดิมๆ แต่กล้าท้าทายทุกกรอบของการประดิษฐ์เรือนเวลา
ล่าสุดกับ Round Triple Mystery เรือนเวลาที่เป็นเหมือนบทพิสูจน์ว่าศิลปะกับกลไกสามารถเดินไปด้วยกันได้แบบไร้ขีดจำกัด นี่คือวิวัฒนาการล่าสุดของไอเดียสุดโต่งที่ Franck Muller เชื่อมั่นมาตลอด “ทำสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อน”
ทุกอย่างเริ่มจาก “ความลึกลับ” ที่สิ่งที่มองไม่เห็น คือสิ่งที่ “ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ”
ในการเดินทางครั้งหนึ่งที่ห่างไกลจากห้องเวิร์กช็อปในเจนีวา แฟรงค์ มุลเลอร์ ได้พบกับวิธีมองเวลาในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน มันไม่ใช่เวลาแบบที่ต้องรีบเร่ง ไม่ใช่ตัวเลขบนหน้าปัดที่ไล่หลังเราอยู่ทุกนาที แต่เป็น “เวลา” ที่ดำเนินไปตามจังหวะของชีวิตจริง ช้าบ้าง เร็วบ้าง และบางครั้งก็เหมือนไม่เคลื่อนไหวเลย
ประสบการณ์นั้นเหมือนกระซิบอะไรบางอย่างกับเขา ว่าเวลาไม่จำเป็นต้องถูกแปลด้วยเข็ม และจากความรู้สึกนั้นเอง ก่อเกิดเป็น Mystery เรือนเวลาที่กล้าท้าทายทุกแบบแผนของการบอกเวลา ไม่มีเข็ม ไม่มีแกน ไม่มีอะไรที่เป็นเส้นตรง มีเพียงจานหมุนที่ค่อยๆ เปิดเผยความลับของชั่วโมงในแบบที่อิสระที่สุด
นี่คือการประดิษฐ์ เปรียบดังบทกวีที่เขาเขียนขึ้นจากความหลงใหลในสิ่งที่เข้าใจไม่ได้

การเคลื่อนไหวที่งดงาม และการออกแบบที่ละเอียดและประณีต
สองปีผ่านไปหลังจากที่แฟรงค์ มุลเลอร์ได้เปิดตัวเรือนเวลา “มิสทรี” และ “ดับเบิล มิสทรี” ซึ่งใช้จานหมุนเพียงแผ่นเดียวและสองแผ่นเพื่อแสดงเวลาอย่างลึกลับและงดงาม ในปี 2025 แบรนด์ได้ยกระดับแนวคิดนี้ไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว Round Triple Mystery ซึ่งเพิ่มจานหมุนแผ่นที่สามสำหรับแสดงวินาที
เรือนเวลานี้มีหน้าปัดที่ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา โดยปราศจากการแสดงค่าด้วยเข็มแบบเดิม ๆ แต่เมื่อมองดูใกล้ ๆ ก็จะเห็นการแสดงเวลาอย่างงดงามดุจการเคลื่อนไหวร่างกายของการเต้นบัลเลต์ ด้วยความซับซ้อนจากการหมุนของจาน 3 แผ่น ซึ่งแต่ละแผ่นจะทำการแสดงเวลาเป็นชั่วโมง นาที และวินาที อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
การเพิ่มจานหมุนแผ่นที่สามสำหรับแสดงวินาทีไม่เพียงแต่เพิ่มความซับซ้อนทางกลไกเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกาไปอีกขั้นหนึ่ง การออกแบบที่ใช้จานหมุนทั้งสามแผ่นที่เคลื่อนไหวอย่างอิสระและประสานกันอย่างลงตัว ทำให้เรือนเวลานี้เป็นผลงานที่ผสมผสานระหว่างความงามและความซับซ้อนทางเทคนิคอย่างลงตัว
ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นและกลไกที่ซับซ้อน จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและความงามในโลกของการประดิษฐ์นาฬิกา
การยกระดับประสบการณ์การดูเวลา
เรือนเวลา Round Triple Mystery มาในรูปทรงที่เรียบหรูแต่แฝงไปด้วยความซับซ้อน โดยมีขนาดตัวเรือนเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มิลลิเมตร ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุที่มีคุณภาพสูงสุด ได้แก่ โรสโกลด์ และ ไวท์โกลด์ ซึ่งผสมผสานความโดดเด่นของการประดิษฐ์ประติมากรรมอันงดงามกับความประณีตในการสร้างกลไกที่ซับซ้อนอย่างลงตัว
นอกจากการออกแบบที่พิถีพิถันแล้ว การประดับเพชรน้ำงามจำนวนมากก็ช่วยเสริมความโดดเด่นอย่างไม่มีที่ติ โดยเพชรแต่ละเม็ดถูกวางเรียงตัวกันเป็นเกลียว ซึ่งดึงดูดสายตาให้มองไปยัง สัญลักษณ์บอกเวลารูปสามเหลี่ยม ที่หมุนตามจังหวะการหมุนของจาน เพชรแต่ละเม็ดเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางของตัวเองเสมือนการเต้นรำบนฟากฟ้า บอกเล่าความงามแห่งกาลเวลาที่หมุนเวียนไปอย่างไม่รู้จบ
นอกจากนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความหรูหรามากยิ่งขึ้น ยังสามารถเลือกเวอร์ชั่นที่ประดับด้วยเพชรเม็ดเหลี่ยม บาแกตต์-คัต บนวงขอบตัวเรือน ซึ่งให้ความแวววาวที่โดดเด่นและสะดุดตายิ่งขึ้น ทำให้เรือนเวลานี้ มีความสง่างามที่ไม่สามารถมองข้ามได้
ในด้านของเทคนิคการออกแบบ การสร้างเรือนเวลาชิ้นนี้ถือเป็นความสำเร็จทางวิศวกรรมอย่างแท้จริง เพราะมีการออกแบบจานหมุนสามแผ่นที่เคลื่อนไหวอย่างอิสระโดยไม่สูญเสียความแม่นยำในการบอกเวลา
แม้การเพิ่มจานหมุนที่แสดงวินาทีเข้าไปจะทำให้การเคลื่อนไหวดูซับซ้อนขึ้น แต่กลับไม่มีการสูญเสียความสมดุลในการทำงานเลยแม้แต่น้อย การพัฒนาจานหมุนที่มีความเบาแต่สามารถหมุนได้อย่างราบรื่นก็เป็นหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในการออกแบบ เพราะต้องใช้พลังงานน้อยที่สุดเพื่อให้การหมุนทุกจานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นาฬิกาเรือนนี้นับเป็นผลงานที่ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความงดงามของศิลปะการสร้างนาฬิกา แต่ยังคงบรรลุถึงความสมบูรณ์แบบทางเทคนิคที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในโลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกา

ความท้าทายทางเทคนิค
การเพิ่มจานหมุนแผ่นที่สามสำหรับแสดงวินาทีใน เรือนเวลานี้ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างสรรค์ที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นการท้าทายขีดจำกัดทางเทคนิคอย่างแท้จริง เนื่องจากการเพิ่มความซับซ้อนในการเคลื่อนไหวของกลไกนั้นมีผลกระทบโดยตรงกับการใช้พลังงานในการทำงานของนาฬิกา
ซึ่งยิ่งเพิ่มความต้องการพลังงานมากขึ้น ด้วยเหตุนี้จานหมุนวินาทีแผ่นกลางจึงถูกออกแบบให้เป็น โครงสเกเลตันที่มีทั้งความสวยงามและน้ำหนักเบา โดยเป็นการผสมผสานทั้งการประดิษฐ์ที่งดงามและการคำนึงถึงประสิทธิภาพของกลไกอย่างลงตัว
ความท้าทายที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาจานหมุนวินาทีคือการหาวิธีทำให้มัน เบาและแข็งแรง ในขณะเดียวกัน ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนสูงสุด การสร้าง โครงจานสเกเลตัน ที่มีน้ำหนักเพียง 0.047 กรัม
และขนาดของโครงจานที่บางเฉียบเพียง 0.3 มิลลิเมตร ถือเป็นความสำเร็จทางวิศวกรรมที่น่าทึ่ง โดยชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเป็นพิเศษ เช่น ลูกศรแสดงค่าและเพชรที่ประดับไว้ยังคงทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของกลไก
เพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง นักประดิษฐ์ของ แฟรงค์ มุลเลอร์ จึงเลือกใช้ อะลูมิเนียม ในการผลิตจานหมุนวินาที เนื่องจากมันมีคุณสมบัติที่ลงตัวระหว่างความเบาและความทนทาน เหมาะสำหรับการสร้างชิ้นงานฉลุสเกเลตันที่ต้องการความแข็งแรงสูงในขนาดที่บางเฉียบ การกลึงชิ้นส่วนด้วยความแม่นยำในระดับสูงสุดนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากความละเอียดของการออกแบบที่ไม่อาจผิดพลาดได้แม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
การประดิษฐ์ที่ไม่เหมือนใคร
การผลิตชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กและเบาเช่นนี้ถือเป็นงานที่ท้าทาย และเป็นการยกระดับความซับซ้อนในการสร้างสรรค์นาฬิกาอีกขั้นหนึ่ง แต่การทำงานที่สมบูรณ์แบบนี้ก็ทำให้เราได้เห็นจานหมุนวินาที ที่เคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นและสมบูรณ์แบบ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ของการจับเวลาที่ไม่เหมือนใคร
ในที่สุด แผ่นจานชิ้นกลางที่มีเพชรเม็ดเดียวติดตั้งอยู่กลางงานศิลป์นี้ ก็ได้เปิดเผยความงามที่ซับซ้อนและเหนือความคาดหมาย ด้วยลวดลายเชิงเรขาคณิตที่แฝงไว้ด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง ลวดลายที่มีความคล้ายคลึงกับสไปโรกราฟ (Spirograph) อันละเอียดอ่อนนี้
ไม่เพียงแต่สร้างความสวยงามในแต่ละการหมุนของจาน แต่ยังทำให้การเคลื่อนไหวดูเหมือนเป็นการเต้นรำที่สอดประสานกันระหว่าง จานชั่วโมง จานนาที และจานวินาที เสมือนการสร้างมิติใหม่ของการแสดงเวลาในรูปแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน


การออกแบบนี้สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวอย่างไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งเต็มไปด้วยจังหวะและความประณีตจากการหมุนของทั้งสามจาน จานแต่ละแผ่นมีบทบาทสำคัญในการบอกเวลา แต่การหมุนร่วมกันของจานทั้งสามยังสะท้อนถึงลักษณะพิเศษของ นาฬิกาเรือนนี้นับเป็นหนึ่งในเรือนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะสะท้อนการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยหยุดนิ่งของเวลาเอง
ทุกส่วนของดีไซน์ใน ทริเปิล มิสทรี ถูกสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มความงดงามให้กับเพชรที่ประดับบนตัวเรือน โดยเฉพาะเพชรเม็ดเล็กๆ ที่ประดับตามขอบของตัวเรือน ซึ่งทำให้แสงสะท้อนออกมาอย่างงดงามและเคลื่อนที่ตามจังหวะการหมุนของจานแต่ละแผ่น ช่วยเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สะดุดตาในทุกๆ การเคลื่อนไหวของจาน
การใช้รูปทรงเรขาคณิตในงานออกแบบยังคงทำหน้าที่เสริมความสมบูรณ์ของ การแสดงเวลา และเน้นย้ำถึงความประณีตในงานฝีมือของ แฟรงค์ มุลเลอร์ ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวของจานหมุนไม่เพียงแต่เป็นการบอกเวลา แต่ยังเป็นการแสดงออกของ ความงามและศิลปะที่เคลื่อนไหวอย่างไร้ขอบเขต ลวดลายที่ซับซ้อนเหล่านี้ชวนให้มองเห็นความน่าหลงใหลในทุกๆ การหมุนวน สร้างประสบการณ์การรับชมที่ไม่เหมือนใคร
โดยเฉพาะ จานวินาที ที่ได้รับการออกแบบให้ประดับด้วยเพชรรูปทรงสามเหลี่ยม (Triangular-cut) ซึ่งไม่เพียงแต่ทำหน้าที่แสดงการเคลื่อนไหวของวินาที แต่ยังสร้างความสง่างามที่เต็มไปด้วยความหลากหลายในการจับภาพจังหวะของเวลาที่เคลื่อนที่ต่อเนื่องไปอย่างงดงาม ละเอียด และงามสง่า


ความลึกลับและเสน่ห์ของเวลา
ราวนด์ ทริเปิล มิสทรี คือผลงานที่สะท้อนถึงการเดินทางของจินตนาการและความท้าทายที่ไม่หยุดยั้ง เรือนเวลานี้ไม่ได้บอกแค่ชั่วโมงหรือนาที แต่เหมือนกับการเล่าเรื่องผ่านการเคลื่อนไหวของจานหมุนที่ลื่นไหลและสวยงาม ซึ่งเปรียบเสมือนการเต้นบัลเลต์ที่มีแสงและเวลาเป็นตัวแสดงหลัก ทุกองค์ประกอบในนาฬิกาถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้การดูเวลาเป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นการสัมผัสความงดงามที่มาพร้อมกับความรู้สึกพิเศษ
ที่สำคัญที่สุด เรือนเวลานี้คือการยกระดับประสบการณ์การมองเวลาให้เป็นเรื่องที่มีความหมายมากขึ้น ความซับซ้อนของการเคลื่อนไหวของจานทั้งสามชิ้นที่หมุนไปมา พร้อมกับการประดับเพชรที่ส่องแสงในทุกมุมมอง เป็นเสมือนการสร้างงานศิลปะที่ไม่เพียงแค่แสดงเวลา แต่ยังบอกเล่าถึงความตั้งใจและความพยายามในการออกแบบ
ถือเป็นอีกหนึ่งเรือนเวลาที่เหมือนเป็นการยกย่องความลึกลับและความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในทุกการเคลื่อนไหว แม้ว่ามันจะไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนในทันที แต่กลับเป็นสิ่งที่คอยเชื้อเชิญให้เราหยุดมองและชื่นชมทุกรายละเอียดที่เกิดขึ้นในทุกวินาที นาฬิกานี้จึงไม่เพียงแต่เป็นเครื่องบอกเวลา แต่มันยังเป็นงานประดิษฐ์ที่ทำให้เรามองเวลาในมุมที่แตกต่างออกไป
ข้อมูลทางเทคนิค
ราวนด์ ทริเปิล มิสทรี
- Ref: 7039 TM D 1R CD
- ตัวเรือน: รูปทรงราวนด์ ขนาด 39 มม. x 10.05 มม. ตัวเรือนโรสโกลด์ / ไวท์โกลด์ 18 กะรัต ประดับเพชรทรงบริลเลียนท์คัต 206 เม็ด (5.22 กะรัต) ด้วยมือ
- กระจก: กระจกคริสตัลแซฟไฟร์
- กันน้ำ: กันน้ำได้สูงสุด 30 เมตร
- หน้าปัด: ประดับเพชรบริลเลียนท์คัต 232 เม็ด (2.28 กะรัต) ด้วยมือ มีชิ้นแสดงเวลารูปสามเหลี่ยม ไทรแองเกิลคัต (0.07 กะรัต) ทำจากเพชร, มรกต, ทับทิม และแซฟไฟร์สีน้ำเงิน
- ฟังก์ชัน: ชั่วโมง นาที วินาที ผ่านแผ่นดิสก์ 3 จานหมุน
- กลไก: MVD 2800-TM ขึ้นลานอัตโนมัติ สำรองพลังงานได้ 40 ชั่วโมง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง Ø 25.6 มม. x หนา 6.7 มม. ความถี่บาลานซ์วีล 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- การตกแต่งกลไก: ขัดลายวนก้นหอยบนสะพานจักร / แกะสลักบนสะพานจักร / การปัดลายซาติน / การขัดเงาแบบเพชรบนโพรงรองรับและแนวปาด / การปัดลายประกายแสงอาทิตย์บนเฟืองล้อและฝาครอบตลับลาน
- สาย: สายหนังจระเข้ ตัดเย็บด้วยมือ ตัวล็อกโรสโกลด์ / ไวท์โกลด์ 18 กะรัต ประดับเพชรบริลเลียนท์คัต 8 เม็ด (0.06 กะรัต) ด้วยมือ
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในโลกเรือนเวลาสุดล้ำได้ที่ Revolution Thailand แหล่งรวมแรงบันดาลใจสำหรับนักสะสมนาฬิกาตัวจริง
ภาพ | ที่มา: Franck Muller

