Tudor at Watches & Wonders 2025: เปิดตัวนาฬิกาใหม่ Black Bay 58 Burgundy, Pelagos Ultra และอีกมากมาย
WORDS Katherine Arteche
ช่วงหลังมานี้แบรนด์ดูจะเล่นสนุกกับการเติมสีสันให้ซีรีส์ Black Bay Chrono ไม่ว่าจะเป็นเฉดฟลามิงโก้บลูสุดจี๊ด หรือเวอร์ชันหน้าปัดสีชมพูที่เรียกเสียงฮือฮาแบบหยุดไม่อยู่ และที่ Watches & Wonders ปีนี้ พวกเขาก็ยังคงสีสันนั้นไว้อย่างเต็มที่ พร้อมปล่อยเซอร์ไพรส์เด็ดให้เราได้ตื่นเต้นอีกครั้ง
Tudor จัดเต็มทั้งสีหน้าปัดใหม่ที่มีทั้งโทนแรงและโทนนุ่ม อัปเกรดกลไกให้ล้ำขึ้น และที่สำคัญคือการยืนหยัดสวนกระแสไซส์เล็กที่กำลังมาแรง นอกจากนี้ Black Bay 58 ก็ได้รับการปรับโฉมอย่างใส่ใจ พร้อมเดินหน้าผลักดันมาตรฐานการรับรองกลไกอย่างจริงจัง ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการสร้างสรรค์เรือนเวลาที่แม่นยำและเปี่ยมด้วยความเป็นเลิศทางเทคนิค
Tudor Black Bay 58 มาในโทนเบอร์กันดี คลาสสิกที่กลับมาเฉิดฉาย
อย่าเพิ่งคิดว่าสีเบอร์กันดีนี้มาเพื่อเรียกร้องความสนใจ เพราะความจริงแล้วเฉดสีนี้มีรากลึกในประวัติศาสตร์ของ Tudor โดยได้แรงบันดาลใจจากต้นแบบ Submariner รุ่นปี 1990 (Ref. 79190) ซึ่งมาพร้อมหน้าปัดและขอบเบเซิลสีเบอร์กันดีที่ไม่เคยถูกผลิตจริง


แต่มาวันนี้ รหัสสีแดงเพลิงระดับตำนานกลับมาโลดแล่นอีกครั้งบน Black Bay 58 ในดีไซน์แบบ tone-on-tone ที่ไล่เฉดจากขอบเบเซิลสู่หน้าปัด พร้อมงานขัดซันเรย์ที่ช่วยขับให้สีสันโดดเด่นขึ้นไปอีกระดับ
นอกจากดีไซน์ที่โดดเด่นขึ้น Black Bay 58 ยังได้รับการยกระดับด้านกลไกด้วยเช่นกัน โดยมาพร้อมเครื่อง Calibre MT5400-U แบบไขลานอัตโนมัติ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน METAS ซึ่งหมายความว่านาฬิการุ่นนี้มีความเที่ยงตรงในระดับ 0/+5 วินาทีต่อวัน และสามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้สูงถึง 15,000 gauss ยกระดับทั้งความแม่นยำและประสิทธิภาพให้เหนือชั้นขึ้นไปอีก

Tudor ไม่ได้อัปเกรดแค่ดีไซน์และกลไกเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความสบายในการสวมใส่ด้วย ระบบปรับสาย T-fit ที่ล้ำสมัย ซึ่งมาพร้อมตัวเลือกสายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สายสตีล 5 ข้อ (5-link bracelet) สายสตีล 3 ข้อแบบ “rivet-style” สุดคลาสสิก หรือแม้แต่สายยางที่ออกแบบให้รับกับตัวเรือนพอดี ทุกตัวเลือกมาพร้อม ระบบปรับความยาวแบบละเอียดได้ถึง 8 มม. โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ช่วยให้การปรับขนาดสายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายกว่าที่เคย
ต้องยอมรับว่าตอนแรก Black Bay 58 สีแดงเบอร์กันดี อาจดูแปลกตาด้วยโทนสีที่ไม่คาดคิด แต่เมื่อพูดถึง ขนาดตัวเรือน 39 มม. ซึ่งเป็นจุดสมดุลที่พอดีระหว่างความคลาสสิกและการสวมใส่ที่ลงตัว ก็แทบไม่มีเหตุผลไหนที่จะโต้แย้งได้เลย
ข้อมูลทางเทคนิค
Tudor Black Bay 58
รหัสรุ่น: Ref. M7939A1A0RU
กลไก: ไขลานอัตโนมัติ Calibre MT5400-U (ได้รับการรับรองจาก COSC และ METAS) พร้อม กำลังลานสำรอง 65 ชั่วโมง
ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที และวินาทีตรงกลาง
ตัวเรือน: ขนาด 39 มม. สเตนเลสสตีล กันน้ำลึก 200 เมตร
หน้าปัด: สีเบอร์กันดี
สาย: สายสตีล 5 ข้อ / สายสตีล 3 ข้อ “rivet-style” / สายยาง พร้อมตัวล็อก T-fit
Pelagos Ultra กันน้ำลึก 1,000 เมตร
Pelagos ถูกสร้างขึ้นมาเพื่องานใต้น้ำโดยเฉพาะ และตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา มันก็กลายเป็นนาฬิกาดำน้ำที่ล้ำหน้าที่สุดของ Tudor
ด้วยตัวเรือนไทเทเนียมที่ทั้งแข็งแกร่งและน้ำหนักเบา Helium Escape Valve และความสามารถในการกันน้ำลึก 500 เมตร ทำให้ Pelagos รุ่นแรกถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักดำน้ำเชิงเทคนิคโดยเฉพาะ และในปีนี้ Tudor กำลังยกระดับ Pelagos ไปอีกขั้น

ครอบครัว Pelagos ของ Tudor ขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากรุ่นต่างๆ เช่น Pelagos FXD (ที่พัฒนาร่วมกับ Marine Nationale) และ Pelagos 39 ที่มีขนาดกะทัดรัดและเหมาะสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน แต่ยังคงความสามารถที่ไม่แพ้รุ่นใหญ่
วันนี้เราได้พบกับสมาชิกใหม่ของครอบครัวนี้ Pelagos Ultra ซึ่งคำว่า “Ultra” ไม่ได้หมายถึงแค่ดีไซน์สุดล้ำ แต่ยังหมายถึง “ดำน้ำลึกสุดขีด” ด้วยความสามารถในการกันน้ำลึกถึง 1,000 เมตร สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนาฬิกาดำน้ำระดับอาชีพ
เพื่อให้สามารถต้านทานการดำน้ำลึกถึง 1,000 เมตร ได้อย่างมั่นใจ Tudor ได้ขยายขนาดตัวเรือน Pelagos Ultra เป็น 43 มม. และใช้ไทเทเนียมทั้ง เกรด 2 และ เกรด 5 รวมถึงติดตั้ง Helium Escape Valve ที่มีขนาดกะทัดรัดซึ่งสำคัญสำหรับการดำน้ำในสภาวะการอิ่มตัว

ความสามารถในการอ่านค่าเวลาที่ชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำน้ำใน “เขตความมืด” ระหว่าง 200 ถึง 1,000 เมตร ได้รับการปรับปรุงอย่างใส่ใจ ด้วยการใช้ ระบบเรืองแสงสองสี ซึ่งทำให้เข็มนาทีขนาดใหญ่เรืองแสงสีเขียว ขณะที่ส่วนอื่นๆ เรืองแสงสีฟ้า ช่วยให้นักดำน้ำสามารถแยกแยะระหว่างเวลาที่ผ่านไปและเวลาปัจจุบันได้ทันที แม้ในความลึกที่สุด
ระบบสายของ Pelagos Ultra ได้รับการออกแบบใหม่อย่างพิถีพิถัน โดยมีตัวล็อกปรับขนาดได้ ที่มาพร้อมกับหลักชั่วโมงเรืองแสง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับรุ่น Pelagos ช่วยให้สามารถปรับขนาดสายได้ง่ายและสะดวกในทุกสถานการณ์


นอกจากนี้ยังมีสายยางที่สามารถขยายได้สูงสุดถึง 110 มม. เพื่อใช้งานกับ ชุดดำน้ำหนา สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การดำน้ำในระดับสุดขีดจริงๆ
แม้ว่าเจ้าของทั่วไปอาจจะไม่มีโอกาสได้ทดสอบความสามารถกันน้ำลึกถึง 1,000 เมตร อย่างเต็มที่ แต่เชื่อมั่นได้ว่า Tudor ได้สร้างเครื่องมือดำน้ำที่สามารถทนทานต่อสภาพสุดขีดได้อย่างไร้ที่ติ เพราะเมื่อพูดถึงการออกแบบและเทคโนโลยีด้านการดำน้ำ Tudor รู้ดีว่าพวกเขากำลังทำอะไร และพวกเขาก็ทำได้ดีจริงๆ
ข้อมูลทางเทคนิค
Tudor Pelagos Ultra
รหัสรุ่น: Ref. 2543C1A7NU
กลไก: ไขลานอัตโนมัติ Calibre MT5612-U (ได้รับการรับรองจาก METAS) พร้อม กำลังลานสำรอง 65 ชั่วโมง
ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที วินาทีตรงกลาง วันที่ และ วาล์วปล่อยฮีเลียม
ตัวเรือน: ขนาด 43 มม. ไทเทเนียม กันน้ำลึก 200 เมตร
หน้าปัด: สีดำด้าน
สาย: สายไทเทเนียม 3 ข้อ พร้อม ตัวล็อก “T-fit” แบบพับ มีตัวล็อกความปลอดภัย และขยายสำหรับการดำน้ำ พร้อมหลักชั่วโมงเรืองแสงใหม่ / สายยางสีดำพร้อม หัวล็อกแบบหมุด และขยายสำหรับการดำน้ำ
Black Bay 68 ขนาดใหม่
เมื่อคุณคิดว่านาฬิกาเริ่มมีขนาดเล็กลงแล้ว Tudor กลับตัดสินใจไปในทิศทางตรงข้าม ครั้งนี้คุณจะได้พบกับ Black Bay 68 รุ่นขนาดใหม่ที่มีขนาด 43 มม. ซึ่งได้รับชื่อจากปีที่ Tudor เปิดตัวเข็มนาฬิกา Snowflake อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
รุ่นใหม่นี้มีการเลือกสีหน้าปัดให้เลือกถึงสองตัวเลือก สีเงิน หรือ Tudor Blue พร้อมกับรายละเอียดอื่นๆ เช่น เข็มวินาทีรูปลูกอม และ เม็ดมะยมดีไซน์ใหม่ที่เรียบเนียน ซึ่งออกแบบให้มีความลงตัวและดูทันสมัยที่สุด


สิ่งที่น่าสังเกตที่สุดคือ การปรับปรุงสาย โดยการใช้ขอบสายด้านข้างที่เรียบ แทนการใช้หัวหมุดย้อนยุคที่พบในรุ่น Black Bay อื่นๆ เพิ่มความล้ำสมัยให้กับตัวเรือนมากยิ่งขึ้น
Black Bay 68 มาพร้อมกับกลไกไขลานอัตโนมัติ Manufacture Calibre MT5601-U ที่ได้รับการรับรองจาก METAS ซึ่งรับประกันความแม่นยำในระดับ 0/+5 วินาทีต่อวัน ความต้านทานสนามแม่เหล็กสูงถึง 15,000 เกาสส์ และกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง
ข้อมูลทางเทคนิค
Tudor Black Bay 68
รหัสรุ่น: Ref. M7943A1A0NU
กลไก: ไขลานอัตโนมัติ Manufacture Calibre MT5601-U (ได้รับการรับรองจาก METAS) พร้อม กำลังลานสำรอง 70 ชั่วโมง
ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที และวินาทีตรงกลาง
ตัวเรือน: ขนาด 43 มม. สแตนเลสสตีล กันน้ำลึก 200 เมตร
หน้าปัด: สีเงินแบบซันบรัช หรือ Tudor Blue
สาย: สายสเตนเลสสตีล 3 ข้อ พร้อม ตัวล็อก “T-fit” แบบพับ
Black Bay Pro รุ่นใหม่ในแบบ Opaline
Tudor ได้เปิดตัวการอัปเดตใหม่ของ Black Bay Pro โดยรุ่นใหม่มาพร้อมกับ หน้าปัด Opaline สีขาวที่สดใส ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นหน้าปัดดำที่เปิดตัวในปี 2022 รุ่นนี้ยังคงรักษาคุณสมบัติที่สำคัญไว้ครบถ้วน ขนาดตัวเรือน 39 มม. ที่ใช้งานได้สะดวก ขอบหน้าปัดสเตนเลสสตีลแบบคงที่ และกลไก MT5652 Manufacture Calibre ที่มาพร้อมฟังก์ชัน GMT ในตัว

เข็ม GMT แบบ “Snowflake” สีเหลืองของ Black Bay Pro ทำการหมุนรอบตัวเองครบหนึ่งรอบทุก 24 ชั่วโมง ขณะที่เข็มเวลาท้องถิ่นที่สั้นกว่าสามารถปรับไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้ด้วยฟังก์ชัน jumping hour ที่สะดวกและใช้งานง่าย
Tudor Black Bay Pro รุ่นใหม่มาพร้อมกับเข็ม GMT สีเหลือง “Snowflake” ที่หมุนรอบตัวเองในเวลา 24 ชั่วโมง ขณะที่เข็มแสดงเวลาท้องถิ่นที่สั้นกว่าสามารถปรับขึ้นหรือลงได้อย่างสะดวกด้วยฟังก์ชัน jumping hour ซึ่งช่วยให้การตั้งเวลาท้องถิ่นทำได้รวดเร็วและง่ายดาย


สำหรับรุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Rolex Explorer II เพราะเป็นนาฬิกาสตีลที่ทนทานหน้าปัด Opaline สะอาดตา มีแค่การเติมสีสันเล็กน้อยที่เข็ม GMT สีเหลือง เรียบง่ายและไม่ผิดหวังแน่นอน
สามารถเลือกใส่กับ สายสเตนเลสสตีลแบบหัวหมุด ที่เป็นเอกลักษณ์ สายผ้าสีดำพร้อมแถบสีเหลือง หรือ สายหนัง-ยางผสม ที่ให้ความสบายและความทนทานในทุกๆ การใช้งาน
ข้อมูลทางเทคนิค
Tudor Black Bay Pro
รหัสรุ่น: Ref. 79470
กลไก: ไขลานอัตโนมัติ Manufacture Calibre MT5652 (ได้รับการรับรองจาก COSC) พร้อม กำลังลานสำรอง 70 ชั่วโมง
ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที วินาทีตรงกลาง เวลาที่สอง และวันที่
ตัวเรือน: ขนาด 39 มม. สแตนเลสสตีล กันน้ำลึก 200 เมตร
หน้าปัด: Opaline
สาย: สายสเตนเลสสตีล / สายยางและหนังผสมกับตัวล็อกพับสเตนเลสและตัวล็อกความปลอดภัย / สายผ้าไนลอนสีดำพร้อมแถบสีเหลืองและหัวล็อก
Black Bay Chronograph ฉลองครบรอบ 50 ปีของ Tudor Chronographs
Tudor ก้าวเข้าสู่การเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการผลิตนาฬิกาจับเวลา (Chronograph) ด้วยการเปิดตัว Black Bay Chrono รุ่นใหม่ที่ได้รับการอัปเดตสำหรับโอกาสพิเศษนี้

Black Bay Chrono รุ่นใหม่ขนาด 41 มม. ทำจากสแตนเลสสตีล มาพร้อมกับหน้าปัดสีดำด้านหรือ Opaline ที่มีการออกแบบวงย่อยที่ตัดกัน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาจับเวลารุ่นแรกของ Tudor ในปี 1970 ความพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ของรุ่นนี้อยู่ที่การออกแบบตัวเรือนที่มีการตัดคริสตัลด้านล่างอย่างชาญฉลาด
รวมถึงปุ่มจับเวลาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นเก่าอีกด้วย ขอบหน้าปัดสเตนเลสสตีลที่ติดตั้งมาตราสเกล Tachymeter สีดำอะลูมิเนียมทำให้ได้ลุคที่ดูมีจุดมุ่งหมายและสปอร์ต ส่วนการอัปเดตใหม่ยังรวมไปถึงตัวเลือกสายที่มาพร้อมกับระบบปรับขนาด “T-Fit” ที่ใช้งานได้สะดวก


ข้อมูลทางเทคนิค
Tudor Black Bay Chrono
รหัสรุ่น: Ref. 79460N
กลไก: ไขลานอัตโนมัติ Manufacture Calibre 5813 (ได้รับการรับรองจาก COSC) พร้อม กำลังลานสำรอง 70 ชั่วโมง
ฟังก์ชัน: แสดงชั่วโมง นาที วินาทีเล็ก ฟังก์ชันจับเวลา (Chronograph) วันที่ และมาตราสเกล Tachymeter
ตัวเรือน: ขนาด 41 มม. สแตนเลสสตีล กันน้ำลึก 200 เมตร
หน้าปัด: Opaline พร้อมวงย่อยสีดำ หรือสีดำพร้อมวงหน้าปัดย่อยสีเงิน
สาย: สายสเตนเลสสตีลแบบ 5 ลิงก์ หรือสายสเตนเลสสตีลแบบ 3 ลิงก์ “Rivet-style” พร้อมตัวล็อกพับ “T-Fit” ปรับขนาดได้อย่างรวดเร็ว
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในโลกเรือนเวลาสุดล้ำได้ที่ Revolution Thailand แหล่งรวมแรงบันดาลใจสำหรับนักสะสมนาฬิกาตัวจริง
ภาพ / ที่มา: revolutionwatch

