Time To…Dinning (ปักหมุดร้านเด็ด): “Surf & Turf Extravaganza Weekend” มื้อสุดพรีเมียม วิวพาโนรามาที่ Bull & Bear

Date:

ใครที่กำลังมองหามื้ออาหารสุดหรูเพื่อเติมเต็มวันหยุดสุดสัปดาห์ เราขอแนะนำ “Surf & Turf Extravaganza Weekend” ที่ห้องอาหาร บูล แอนด์ แบร์ (Bull & Bear) บนชั้น 55 ของโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ นี่ไม่ใช่มื้อบุฟเฟต์ทั่วไป แต่เป็นสไตล์เซมิบุฟเฟต์ (Semi Buffet) ที่ผสมผสานความอลังการของซีฟู้ดสดใหม่เข้ากับเนื้อวัวและเนื้อแกะระดับพรีเมียมอย่างลงตัว

จุดเริ่มต้นและจุดสูงสุดของมื้ออาหาร

มื้อพิเศษนี้เริ่มต้นด้วยความหรูหราจากเมนูเรียกน้ำย่อย (Appetizers) ที่คัดสรรมาอย่างดี อาทิ หอยนางรมจีราโด (Gillardeau Oysters) ฮามอง อิเบอริโก (Jamón Ibérico) และ ทาร์ทาร์เนื้อวากิว (Wagyu Beef Tartare) จากนั้นค่อยเลือกซุปร้อนๆ อย่าง ซุปล็อบสเตอร์บิสก์ (Lobster Bisque) หรือ ซุปใสสูตรพิเศษสไตล์บูลแอนด์แบร์ (Bull & Bear Consommé)

แต่ไฮไลท์ที่แท้จริงอยู่ที่จานหลัก ซึ่งเป็นอาหารจานแชร์ (Sharing Platter) ที่เรียกว่า “Best of the Sea” ที่รวมสุดยอดอาหารทะเลไว้บนถาดเดียว ไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์ฮอกไกโด (Hokkaido Scallops) กุ้งย่าง (Grilled Prawns) และ ปลาแซลมอนจากประเทศนอร์เวย์ (Norwegian Sustainable Salmon)

ความพิเศษยังไม่หมดแค่นั้น เพราะซีฟู้ดเหล่านี้จะถูกจับคู่มากับเนื้อพรีเมียม 3 ชนิดที่ผ่านการย่างอย่างเชี่ยวชาญ ได้แก่:

  • เนื้อวากิวริบอาย A4 จากประเทศญี่ปุ่น (Japanese A4 Wagyu Rib Eye)
  • สเต็กเนื้อสันนอกจากนิวยอร์ก (New York Strip Steak)
  • ดรายเอชเนื้อแกะจากประเทศออสเตรเลีย (Dry-aged Australian Lamb)

เคล็ดลับความอร่อยของเมนูย่างที่นี่คือการใช้ ไม้ยูคาลิปตัส เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมรมควันที่มีเอกลักษณ์และรสสัมผัสที่ลุ่มลึกให้กับเนื้อทุกชิ้น

ไม่จำกัดเครื่องเคียงและของหวาน

นอกจากจานหลักแล้ว ในส่วนของเซมิบุฟเฟต์นี้ คุณยังสามารถเลือกอร่อยกับเครื่องเคียงซิกเนเจอร์ได้แบบไม่จำกัด (Free Flow of Curated Sides) อาทิ แม็กแอนด์ชีส (Mac & Cheese) ผักโขมอบครีม (Creamed Spinach) และ ผักย่าง (Grilled Seasonal Vegetables)

Surf & Turf Semi Buffet Bull & Bear

ปิดท้ายมื้ออาหารอย่างสมบูรณ์แบบด้วยของหวานสุดอลังการ ไม่ว่าจะเป็น วานิลลาและ สตรอว์เบอร์รี มิลล์เฟยล์ (Vanilla & Strawberry Mille-Feuille) หรือ ชีสเค้กบลูเบอร์รี (Blueberry Cheesecake)

ข้อมูลสำคัญสำหรับสายกินพรีเมียม

  • วันและเวลาให้บริการ: ทุกสุดสัปดาห์ (วันเสาร์และอาทิตย์) เวลา 12:00 น. – 15:00 น.
  • เริ่มเปิดตัว: วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568
  • ราคา:
    • สำหรับอาหารเท่านั้น: 3,450++ บาทต่อท่าน (4,060 บาท สุทธิ)
    • รวมแชมเปญ: 7,000++ บาทต่อท่าน (8,239 บาท สุทธิ) รวม Louis Roederer Champagne แบบไม่จำกัด
    • (ราคาไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
  • การสำรองที่นั่ง: เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบและวิวสวยๆ แนะนำให้โทรสำรองที่นั่งล่วงหน้า 

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
Bvlgari Holiday Season 2025 เรือนเวลาแห่งการเฉลิมฉลองภายใต้มนต์เสน่ห์แห่งกรุงโรม
นาฬิกากับบทบาทในโลกภาพยนตร์และซีรีส์ : โอกาสแจ้งเกิดอันทรงพลังบนหน้าจอ
Wrist Luck: รู้ไหมว่าแค่ “วัสดุ” ของนาฬิกาก็ส่งผลถึงดวงคุณได้? เติมเต็มโชคให้ข้อมือคุณ

Share post:

More like this

Time To Speed… ปลดล็อกความบางเฉียบแห่งความเร็วไปกับเรือนเวลาจาก Maserati (ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก)

Maserati Velocità Slim ในฤดูกาล FW25 สิ่งที่ Revo มองเห็นคือกลยุทธ์ที่เฉียบคมของมาเซราติในการยกระดับผลิตภัณฑ์กลุ่มนาฬิกาให้ก้าวข้ามจาก "สินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีโลโก้รถหรู" ไปสู่ "งานออกแบบเครื่องบอกเวลาที่จริงจัง

Wrist Luck October | Midnight Black Power: กับ 5 เรือนเวลาดำดาร์ก เสริมพลังอำนาจแห่งการควบคุม

สำรวจพลังลึกลับของนาฬิกาโทนดำ 5 เรือน ที่รวมทั้งศาสตร์แห่งเวลาและพลังแห่งการเปลี่ยนผ่านในเดือนตุลาคม ตั้งแต่ความคลาสสิกของ Mido ไปจนถึงความแกร่งของ Hamilton

Wrist Check: ส่องนาฬิกานักแข่ง F1 ปลุกเร้าจิตวิญญาณแห่งความเร็วที่ Marina Bay

ส่อง Wrist Check สุดพิเศษ: เจาะลึกนาฬิกา Richard Mille, IWC, TAG Heuer และ H. Moser & Cie. คู่ใจของนักแข่ง F1 ตัวจริงที่ Marina Bay Street Circuit

Wrist Check: Andrew Garfield และ Jaeger-LeCoultre Reverso Tribute Monoface Small Seconds

Andrew Garfield ปรากฏตัวบนพรมแดงเทศกาลภาพยนตร์ New York Film Festival พร้อมนาฬิกา Jaeger-LeCoultre Reverso Tribute Monoface Small Seconds เรือนทองชมพูที่ผสานประวัติศาสตร์ ความหรูหรา และดีไซน์เหนือกาลเวลาอย่างลงตัว