Richard Mille RM 07-02 Automatic Lady Sapphire Collection

Date:

4 บทใหม่กับเรือนแซพไฟร์ใสสำหรับคุณผู้หญิง

Richard Mille ไอเทมสำคัญของเครื่องแบบสำหรับคนมีสตางค์ เผยโฉมนาฬิกา RM 07-02 Automatic Sapphire Collection นาฬิกาสำหรับผู้หญิงที่เปิดหน้าค่าตาออกมากันเพิ่ม 4 เวอร์ชั่น ในตัวเรือนแซพไฟร์ใสเจือสี ซึ่งต้องผสมออกไซด์ของโลหะต่าง ๆ ลงไปในโครงตาข่ายผลิกของวัสดุ และเกิดการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการเติบโต เมื่อได้ผลึกสีที่ต้องการแล้ว ก็ต้องใช้เวลากว่า 1,000 ชั่วโมงในการกลึงจนได้รูปทรงตัวเรือนตามที่ออกแบบไว้

ส่วนการทำงานอย่างแข็งขันในการขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกลไกอัตโนมัติ CRMA5 ที่มีโครงสร้างแบบสเกเลตัน และใช้บริดจ์กับเมนเพลทที่ทำขึ้นจากเร้ดโกลด์หรือไวท์โกลด์ นำไปผ่านการทำไมโครบลาสต์และปาดขอบด้วยมือ ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลไกสเกเลตันที่ไม่เป็นสองรองใครในตลาดนาฬิกา

RM 07-02 Automatic Sapphire Collection

นาฬิกา 4 เวอร์ชั่นใหม่นี้ผสมความน่าดึงดูดของดีไซน์ตัวเรือนที่เรียบง่ายแต่มีสไตล์แบบ Richard Mille เช่นเดียวกับเวอร์ชั่นก่อนหน้า ซึ่งจุดเด่นก็คือสามารถมองทะลุผ่านตัวเรือนเข้าไปยังโครงสร้างกลไกที่อยู่ภายในได้ หน้าปัดของเวอร์ชั่นใหม่เหล่านี้โดดเด่นด้วยรูปทรงเรขาคณิตที่มีความสมมาตรอย่างสมบูรณ์แบบพร้อมกับสุนทรียศาสตร์อันประณีต

RM 07-02 Automatic Sapphire Collection

การออกแบบกราฟิกตรงส่วนกลางเป็นการสะท้อนถึงศิลปะของช่างประดับอัญมณีชั้นครู อัญมณีที่ประดับอยู่จะสะท้อนแสงเพื่อเสริมให้ทุกเหลี่ยมมุมของตัวเรือนแซฟไฟร์ดูเด่นขึ้น โดยมีการประดับตกแต่งทั้งที่หน้าปัด แนวกรอบหน้าปัด และชิ้นขอบตัวเรือน ทั้งยังประดับคาโบชองไว้ที่เม็ดมะยมอีกด้วย อัญมณีล้ำค่าต่าง ๆ เช่น เพชรที่แวววาว แซฟไฟร์สีน้ำเงินที่สะกดสายตา และแซฟไฟร์สีเหลืองสดใส ถูกผสมผสานกับอัญมณีต่าง ๆ เช่น สเปสซาร์ไทต์ ไวท์อะเกตหรือโอปอล และซาโวไรต์สีเขียว คริสโซเพรส และมาลาไคต์

เบื้องหลังความกลมกลืนของภาพอันหรูหราของชิ้นงานตัวเรือนแซพไฟร์นี้ซ่อนความชาญฉลาดเชิงจักรกลเอาไว้ด้วยกลไกอินเฮาส์ อัตโนมัติ โครงสร้างสเกเลตัน Cal.CRMA5 บอกเวลาเป็นชั่วโมงและนาที และขึ้นลานด้วยโรเตอร์ที่แปรเปลี่ยนรูปทรงได้ ทำให้สามารถกำหนดการขึ้นลานของกลไกได้ตามกิจกรรมของผู้สวมใส่โดยการปรับตุ้มถ่วงน้ำหนักขนาดเล็ก 2 ชิ้น ส่วนตัวโรเตอร์ที่ทำจากเร้ดโกลด์นั้นถูกประดับด้วยเพชรมาอย่างดงาม กลไกที่มีขนาดกะทัดรัดนี้สำรองพลังงานได้ประมาณ 50 ชั่วโมง และมีเมนเพลทและบริดจ์ที่ทำจากเร้ดโกลด์หรือไวท์โกลด์ที่ขึ้นอยู่กับเวอร์ชั่น ซึ่งได้รับการทำผิวไมโครบลาสต์และเจียรมุมด้วยมือ การผสมผสานรายละเอียดอย่างมากมายและการตกแต่งเหล่านี้ถูกกระทำมาอย่างประณีตที่สุดเพื่อช่วยเสริมให้นาฬิกามีความโดดเด่นยิ่งขึ้น

RM 07-02 Automatic Sapphire Collection

การใช้แซฟไฟร์ของ Richard Mille ต้องเผชิญกับข้อจำกัดอย่างมากมายและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว เพราะตัวเรือนทรงตอนโนอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นั้นยากต่อการสร้างชิ้นงานจากแซพไฟร์เนื่องจากแนวเส้นโค้งที่ทำให้ตัวเรือนนี้เหมาะกับสรีระข้อมือและสวมใส่ได้สบาย จึงต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในทุกขั้นตอนของกระบวนการสร้าง ตั้งแต่ก่อนการผลิต ไปจนถึงการผลิตและการตกแต่ง เพราะแซฟไฟร์ไม่สามารถทนต่อการบิดเบี้ยวได้แม้จะมีเพียงเล็กน้อยก็ตามโดยเฉพาะในระหว่างการเจียระไน

องค์ประกอบทางเคมีของแซพไฟร์ทำให้ได้ความแข็งถึงระดับ 9 ตามมาตราโมห์สที่ใช้กับความแข็งของแร่ ซึ่งตามหลังเพชรที่เป็นอันดับหนึ่ง การสร้างตัวเรือนแต่ละชิ้นต้องใช้เวลาในการตัดเฉือนมากกว่า 1,000 ชั่วโมง โดย 430 ชั่วโมงใช้สำหรับการขึ้นรูปชิ้นส่วนตัวเรือน และ 350 ชั่วโมงใช้สำหรับการขัดเงาตัวเรือน นอกจากนี้ แผ่นขอบตัวเรือนทั้งด้านหน้าและด้านหลังยังได้รับการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนเพื่อให้มองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้ชัดเจนที่สุด

RM 07-02 Automatic Sapphire Collection

การผลิตแซฟไฟร์สีนั้นต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนกว่าแซฟไฟร์ใส โดยแซฟไฟร์สีเหล่านี้ผลิตขึ้นโดยผสมออกไซด์ของโลหะลงในโครงตาข่ายผลึกของวัสดุอย่างระมัดระวัง อีกทั้งผลึกสีจะไวต่อความร้อนและกระบวนการเจริญเติบโตมากกว่าผลึกที่ไม่มีสี ดังนั้น การพัฒนาเฉดสีใหม่ เช่น สีไลแลค จึงต้องทำการทดลองหลายครั้งก่อนที่จะได้มาซึ่งเฉดสีที่ต้องการ

การฝังอัญมณีลงในวัสดุตัวเรือนชนิดนี้ถือเป็นงานวิศวกรรมที่แท้จริง เนื่องจากต้องใช้เลเซอร์ในการเจาะรูสำหรับฝังอัญมณี ซึ่งต้องแม่นยำถึงระดับไมครอน โดยใส่ฐานทองที่ขัดเงาด้วยมือเข้าไปทีละชิ้นแยกชิ้น แล้วจึงฝังเพชรลงไปให้เรียงกันอย่างสวยงาม

เวอร์ชั่นใหม่เหล่านี้เกิดขึ้นได้จากการแสวงหาอย่างไม่ลดละในการผสมผสานความประณีตเข้ากับทักษะทางเทคนิค นาฬิกาเวอร์ชั่นใหม่ทั้งสี่ของ RM 07-02 Automatic Sapphire ถูกผลิตขึ้นด้วยจำนวนที่จำกัดมาก ๆ เพียง 7 เรือนสำหรับแต่ละเวอร์ชั่น อันได้แก่ เวอร์ชั่นแซฟไฟร์สีชมพูประดับอัญมณี เวอร์ชั่นแซฟไฟร์สีม่วง เวอร์ชั่นแซฟไฟร์สีเขียว และเวอร์ชั่นแซฟไฟร์สีเขียวประดับอัญมณี

RM 07-02 Automatic Sapphire Collection

ข้อมูลทางเทคนิค: Richard Mille RM07-02 Automatic Lady Sapphire

  • กลไก: อัตโนมัติ Cal.CRMA5 โครงสร้างสเกเลตัน สำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง โรเตอร์ทรงเรขาคณิตแบบแปรผันได้ เบสเพลทประดับเพชร
  • ฟังก์ชั่น: แสดงชั่วโมง และนาที
  • ตัวเรือน: แซพไฟร์สีชมพู (เวอร์ชั่นประดับอัญมณี) แซฟไฟร์สีม่วง แซฟไฟร์สีเขียว และแซฟไฟร์สีเขียว (เวอร์ชั่นประดับอัญมณี) ขนาด 46.75 x 32.9 มม. หนา 14.35 มม.
  • จำนวนการผลิต: ผลิตจำนวนจำกัด 7 เรือนต่อเวอร์ชั่น

“ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในโลกเรือนเวลาสุดล้ำได้ที่ Revolution Thailand – แหล่งรวมแรงบันดาลใจสำหรับนักสะสมนาฬิกาตัวจริง”

Share post:

More like this

เรื่องราวของกลไก BENU Power Reserve บทใหม่แห่งศิลปะช่างเยอรมันจาก Moritz Grossmann

Moritz Grossmann BENU Power Reserve นำเสนอการปรับปรุงรายละเอียดใหม่ที่ประณีต ด้วยหน้าปัด Azurage และเข็มทรงใหม่ ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลาน Calibre 100.2 พร้อมมาตรวัดพลังงานสำรองแบบเส้นตรง

นาฬิกา Grand Seiko ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ

จากทะเลสาบซูวะถึงฟากฟ้ายามเที่ยงคืน Grand Seiko ถ่ายทอดความงดงามแห่งสายน้ำบนหน้าปัดทั้ง 4 รุ่น ที่สะท้อนแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและความประณีตของญี่ปุ่น

Oris x Cervo Volante เมื่อนาฬิกาพาเรากลับสู่ธรรมชาติแห่งสวิส ชมความหรูหราที่มาพร้อมความรับผิดชอบ

Oris x Cervo Volante กลับมาอีกครั้งพร้อมนาฬิกาที่มีสายหนังกวางที่ได้จากกระบวนการควบคุมประชากรตามธรรมชาติในสวิตเซอร์แลนด์ หน้าปัดสีส้ม Burnt Maple พร้อมกลไก Pointer Date สะท้อนจิตวิญญาณแห่งเทือกเขาแอลป์

Santos de Cartier Titanium การบุกเบิกครั้งใหม่ด้วยไทเทเนียมและจิตวิญญาณนักสำรวจผู้ยิ่งใหญ่

Cartier เปิดตัว Santos de Cartier Titanium Large Model ตัวเรือนไทเทเนียม Grade 5 พ่นทรายด้าน เบากว่ารุ่นสตีล 43% ขับเคลื่อนด้วยกลไก 1847 MC พร้อมฟังก์ชัน QuickSwitch และ SmartLink เพื่อความสะดวกในการปรับเปลี่ยนสาย