Bell & Ross BR-X3 NIGHT VISION แรงบันดาลใจจากโลกยามค่ำคืนของนักบินสู่ข้อมือคุณ

Date:

Bell Ross BR-X3 NIGHT VISION เจาะลึกนาฬิกา Manufacture 70 ชม. ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Night Vision

Bell & Ross ได้สานต่อปรัชญา “จากห้องนักบินสู่ข้อมือ” อย่างไม่หยุดยั้ง การเปิดตัว BR-X3 NIGHT VISION ถือเป็นบทที่สองของมหากาพย์ BR-X3 โดยนำไอคอนอย่าง BR 03 ก้าวเข้าสู่มิติของเครื่องมือสมัยใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีการแสดงผล Head-up Display ในการบินยามค่ำคืนของอากาศยานที่ซับซ้อนที่สุด

การออกแบบและแรงบันดาลใจเชิงฟังก์ชัน

นาฬิการุ่นนี้ยังคงรูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีวงกลมอยู่ภายในอันเป็นเอกลักษณ์ของ B&R ไว้ แต่ถูกยกระดับขึ้นด้วยวัสดุและเทคนิคที่ทันสมัย ตัวเรือนของ BR-X3 NIGHT VISION สร้างขึ้นจากไทเทเนียมระดับ 2 เคลือบด้วย Black DLC (Diamond-Like Carbon) แบบพ่นทรายที่ให้ผิวสัมผัสแบบด้าน (Micro-blasted finish) การเลือกใช้สีดำด้านมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนคือการลดแสงสะท้อน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของเครื่องมือทางทหารและยุทธวิธี

หัวใจสำคัญของการออกแบบนี้คือการเลียนแบบประสบการณ์การมองเห็นผ่านกล้อง Night Vision Goggles หน้าปัดถูกปกคลุมด้วยกระจกแซฟไฟร์เคลือบสีเขียวป้องกันแสงสะท้อน การเคลือบสีเขียวนี้นอกจากจะให้ความลึกลับและดุดันในที่สว่าง ยังเป็นตัวสร้างบรรยากาศของโลกยามค่ำคืนของนักบิน การแสดงเวลาของมันถูกทำให้ชัดเจนสูงสุดด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® X2 สีขาวที่มีการปล่อยแสงสีเขียว (Green Emission) ทั้งบนตัวเลขอารบิก ขีดบอกเวลา และเข็มนาฬิกา กลไกการเรืองแสงนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การอ่านค่าแม่นยำและเที่ยงตรงในทุกสภาวะแสง ซึ่งสะท้อนความเชี่ยวชาญของ Bell & Ross ในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีคุณสมบัติ Photoluminescent เพื่อการใช้งานทั้งกลางวันและกลางคืน

มิติทางกลไกและวิศวกรรมตัวเรือน

BR-X3 NIGHT VISION นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงทางสุนทรียศาสตร์แล้ว ยังเป็นการอัพเกรดทางวิศวกรรม นาฬิกาเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Calibre BR-CAL.323 ซึ่งเป็นกลไก Manufacture In-house ที่มาพร้อมกับพลังงานสำรองประมาณ 70 ชั่วโมง (หรือประมาณ 3 วัน) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการพัฒนาขีดความสามารถทางกลไกของตนเอง หน้าปัดของนาฬิกามาพร้อมฟังก์ชันการแสดงผลแบบสามเข็ม (ชั่วโมง นาที วินาที) ช่องวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และคุณสมบัติที่โดดเด่นคือการแสดงพลังงานสำรอง ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่สำคัญมากสำหรับเครื่องมือที่ต้องพึ่งพาความแม่นยำ

ตัวเรือนมีขนาด 41 มม. กว้าง 13.3 มม. ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สมดุลกับดีไซน์สี่เหลี่ยมอันทรงพลังของซีรีส์ BR 03 ตัวเรือนถูกสร้างขึ้นด้วยโครงสร้างที่เป็นนวัตกรรมใหม่โดยผสานส่วนประกอบขั้นสูงและวัสดุล้ำสมัย การกันน้ำอยู่ที่ 100 เมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับนักบินมืออาชีพและการใช้งานในชีวิตประจำวัน นาฬิกามาพร้อมสายรัดข้อมือสองแบบคือสายยางสีดำและสายผ้าสังเคราะห์ทนทานสีดำ เพื่อความยืดหยุ่นและความทนทานสูงสุด

บทวิเคราะห์ภาพรวม

เรามองว่า Bell & Ross BR-X3 NIGHT VISION คือการบรรจบกันของความงามเชิงยุทธวิธี (Tactical Aesthetics) และความเป็นเลิศทางกลไก (Horological Excellence) นี่คือนาฬิกาที่สำเร็จในการถ่ายทอด ‘ความรู้สึก’ ของการเป็นเครื่องมือทางทหารและวิทยาศาสตร์มาสู่ข้อมือ

ความสมบูรณ์แบบของการเลียนแบบ: B&R ได้นำแรงบันดาลใจมาอย่างครบถ้วน โดยการเลือกใช้สีเขียวเป็นการสร้างบรรยากาศของ ‘การมองผ่านอุปกรณ์’ ประกอบด้วยการใช้กระจกสีเขียวเคลือบตัดกับ Super-LumiNova® X2 ที่ส่องสว่างชัดเจน ทำให้การใช้งานในที่มืดมีความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

การยกระดับสู่ Manufacture: การใช้กลไก BR-CAL.323 ซึ่งเป็นกลไกที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานพร้อมพลังงานสำรองที่ยาวนานขึ้น (70 ชั่วโมง) และการรับประกัน 5 ปี แสดงให้เห็นว่า BR-X3 ไม่ใช่แค่รุ่นที่เน้นการออกแบบภายนอกอย่างเดียว ยังเป็นการพัฒนาเทคนิคและคุณภาพภายในที่สำคัญอย่างยิ่ง การเพิ่มตัวแสดงพลังงานสำรองเป็นการตอกย้ำถึงคุณสมบัติ ‘เครื่องมือ’ ที่ต้องรู้สถานะของตนเองตลอดเวลา

ความเป็นเอกลักษณ์และความจำกัด: การผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 250 เรือนทั่วโลกยิ่งตอกย้ำความเป็นของสะสมและสถานะของนาฬิกาในฐานะสมาชิกคนสำคัญในซีรีส์ BR-X3 ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ Bell & Ross ใช้สัญลักษณ์ “X” เพื่อแสดงถึงโครงการทดลองหรือการวิจัยที่ล้ำสมัย

โดยรวมแล้ว สำหรับเจ้า BR-X3 NIGHT VISION เรือนนี้เรียกได้ว่าเป็นนาฬิกาที่ดุดัน ลึกลับ และมีความซับซ้อนทางเทคนิคที่มองข้ามไม่ได้ พูดง่ายๆ มันก็คือเครื่องมือบอกเวลาขั้นสูงที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาฟังก์ชันการใช้งานระดับสุดยอด และชื่นชมความงามที่เกิดจากเทคโนโลยีการบินยามค่ำคืนอย่างแท้จริง

ข้อมูลทางเทคนิค
  • ชื่อรุ่น Bell & Ross BR-X3 NIGHT VISION (รุ่นจำกัด 250 เรือน)
  • ตัวเรือน ไทเทเนียมระดับ 2 เคลือบ Black DLC แบบพ่นทราย ขนาด 41 มม. หนา 13.3 มม. กันน้ำ 100 ม.
  • หน้าปัด กระจกแซฟไฟร์เคลือบสีเขียวป้องกันแสงสะท้อน การแสดงผลใช้ Super-LumiNova® X2 (Green Emission)
  • ฟังก์ชัน ชั่วโมง นาที วินาที วันที่ (3 นาฬิกา) และตัวแสดงพลังงานสำรอง (9 นาฬิกา)
  • กลไก Calibre BR-CAL.323 (กลไก Manufacture In-house อัตโนมัติ) พลังงานสำรอง 70 ชั่วโมง รับประกัน 5 ปี
  • สาย สายยางสีดำและสายผ้าสังเคราะห์ทนทานสีดำ

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
Bulova x Shelby Chronograph การแสดงความเคารพต่อรถยนต์อเมริกันมัสเซิลคาร์
Omega Speedmaster Dark and Grey Side of the Moon กับการปฏิวัติเซรามิกเพื่อสานต่อตำนานผู้พิชิตอวกาศ
IWC Schaffhausen เฉลิมฉลองตรุษจีนปีม้า เผยโฉม Portugieser Automatic 42 ลิมิเต็ดอิดิชั่น หน้าปัดสีเบอร์กันดี

Share post:

More like this

Santos de Cartier Titanium การบุกเบิกครั้งใหม่ด้วยไทเทเนียมและจิตวิญญาณนักสำรวจผู้ยิ่งใหญ่

Cartier เปิดตัว Santos de Cartier Titanium Large Model ตัวเรือนไทเทเนียม Grade 5 พ่นทรายด้าน เบากว่ารุ่นสตีล 43% ขับเคลื่อนด้วยกลไก 1847 MC พร้อมฟังก์ชัน QuickSwitch และ SmartLink เพื่อความสะดวกในการปรับเปลี่ยนสาย

ZENITH DEFY Skyline Tourbillon การตีความใหม่ของความหรูหราด้วยตัวเรือนโรสโกลด์และเฉดสีอิฐแห่งมรดก

ZENITH เปิดตัว DEFY Skyline Tourbillon ที่สร้างสรรค์จาก Rose Gold ทั้งเรือนเป็นครั้งแรก ตัวเรือน 41 มม. หน้าปัดสีแดงอิฐ กลไก El Primero 3630 ทูร์บิญอง 5 Hz พร้อมระบบเปลี่ยนสายด่วน

Patek Philippe Gondolo Serata Zebra จากมรดกแห่งบราซิล สู่เรือนเวลาหน้าปัดม้าลายที่ดูมีชีวิต

ย้อนรอย Gondolo คอลเลกชันแห่งรูปทรงที่ไม่ใช่ทรงกลม สู่การเปิดตัวที่น่าตื่นเต้นที่สุด Patek Philippe Gondolo Serata Zebra Ref. 4962/200R-010 นาฬิกาเรือนนี้ใช้เทคนิคอันล้ำลึกในการสลักลายม้าลายบนหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัล พร้อมประดับพลอยสเปสซาไทต์กว่า 94 เม็ด นี่คือการนิยามความสง่างามที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่างแท้จริง

Bovet Récital 30 นาฬิกา world time ที่บอกเวลาทุกไทม์โซนทั่วโลกได้ละเอียดยิ่งกว่า

พลิกทุกมิติแห่งการบอกเวลาทั่วโลกด้วยการอ่านค่าเวลาได้ 25 ไทม์โซน อย่างเที่ยงตรงทั้ง 
4 ฤดูกาล การแบ่งเวลาเป็น 24 ไทม์โซนทั่วโลกทำให้มนุษย์เข้าใจในเส้นแบ่งเวลาตามมาตรฐานสากลตรงกันได้แล้วก็จริง แต่ถึงกระนั้น...