เปิดตัว King Seiko VANAC โฉมใหม่ ดีไซน์สุดล้ำ มาพร้อมกลไก 8L45 และแรงบันดาลใจจากโตเกียว

Date:

เมื่อตำนานแห่งยุค 70s ถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพ ด้วยดีไซน์ กลไก และจิตวิญญาณแห่งโตเกียวกับ King Seiko VANAC

ก่อนจะไปถึงหน้าปัด กลไก หรือสายนาฬิกา… มาคุยกันเรื่อง “พลังงาน” กันก่อนดีกว่า

โลกของนาฬิกาตอนนี้มันวิ่งเร็วซะยิ่งกว่าเข็มวินาที ใคร ๆ ก็อยากได้ของใหม่ล่าสุด ของที่ล้ำที่สุด หรือไม่ก็ย้อนไปหาของที่ “วินเทจ” แบบสุดขั้ว จนบางทีก็ลืมไปว่าการจะสร้าง “ของที่ใช่” ขึ้นมาสักชิ้น มันต้องอาศัยมากกว่าแค่ดีไซน์หรือเทคโนโลยี นั่นคือสิ่งที่ Revo สัมผัสได้เมื่อ King Seiko จุดพลุโปรเจกต์ VANAC เวอร์ชั่น 2025 ขึ้นมา

แกะรอยจิตวิญญาณ VANAC นี่คือรหัสลับแห่งการปฏิวัติ

จำ King Seiko VANAC ยุค 70s ได้ไหม? ถ้าทันก็แสดงว่าคุณไม่ใช่คนอ่อนหัดในวงการนี้แน่ ๆ ตอนนั้นมันเป็นปรากฏการณ์ ดีไซน์เหลี่ยมจัด ขอบคมกริบ แตกต่างจากนาฬิกาทั่วไปราวกับหลุดมาจากโลกอนาคต มันคือการ “คิดนอกกรอบ” อย่างแท้จริง

ครึ่งศตวรรษผ่านไป Seiko ตัดสินใจนำรหัสนี้กลับมาปลุกปั้นใหม่ นอกเหนือจากแค่เอาแบบเก่ามาปัดฝุ่นแล้วยัดเครื่องใหม่ แต่มันคือการ “ตีความ” คำว่า V.A.N.A.C. ขึ้นมาอีกครั้ง ในบริบทของโลกยุคปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น

  • Vibrant: ดูโดดเด่น เปล่งประกายด้วยแสงสะท้อนบนพื้นผิว พลังงานที่แผ่ออกมา
  • Active: การเคลื่อนไหว เปี่ยมพลัง
  • Novel: ใหม่ และแตกต่าง ไม่ใช่แค่ตามกระแส แต่คือการสร้างกระแสใหม่
  • Alternative: การคิดนอกกรอบ DNA ที่ไม่เคยจางหายไปจาก VANAC
  • Comfortable: สวมใส่สบาย ความสมดุลที่สำคัญที่สุดในชีวิตจริง

พูดได้ว่า “แก่น” ที่ King Seiko พยายามจะสื่อออกมาจาก VANAC เวอร์ชั่น 2025 มันคือนาฬิกาสำหรับคนที่ไม่ยอมให้ใครมาตีกรอบ ชีวิตต้องมีพลัง มีความคิดสร้างสรรค์ และที่สำคัญ… ต้องกล้าที่จะแสดงออก

แสงสะท้อนจากโตเกียว… บนข้อมือของRyohei Suzuki

แล้วทำไมต้องเป็น Ryohei Suzuki?

เมื่อ King Seiko เลือกนักแสดงหนุ่มคนนี้มาเป็น Global Ambassador คนแรกของตระกูล King Seiko เราต้องมองให้ลึกกว่าแค่ชื่อเสียงจากหนัง ‘City Hunter’ หรือหน้าตาที่หล่อเหลา Ryohei Suzuki คือตัวแทนของคนยุคใหม่ที่เต็มไปด้วย “มิติ” เขาเป็นนักแสดงที่เข้าถึงบทบาทได้อย่างลึกซึ้ง มีความมุ่งมั่น มีสไตล์เป็นของตัวเอง และที่สำคัญ… เขามีจิตวิญญาณที่คล้ายกับ VANAC

การเลือก Ryohei คงไม่ใช่แค่การ “จ้างพรีเซ็นเตอร์” เพราะนี่เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า King Seiko VANAC เป็น “คาแร็กเตอร์” ที่จับต้องได้ และ Ryohei คือกระจกที่สะท้อนคาแร็กเตอร์นั้นออกมาได้อย่างชัดเจนที่สุด

รูปลักษณ์ใหม่ เมื่อความสปอร์ตผนวกความคลาสสิกของโตเกียว

“ลุคใหม่” ที่ว่า ไม่ใช่แค่การแปลงโฉม แต่คือการ “ควบรวม” จิตวิญญาณแห่งความสปอร์ตเข้ากับความคลาสสิกเหนือกาลเวลาของมหานครโตเกียวอย่างลงตัวทั้ง 5 โมเดลที่ปรากฏสู่สายตา สะท้อนความเฉียบคมและความแกร่งที่ถูกแกะสลักในทุกมิติ ย้ำชัดถึง DNA การออกแบบที่ไม่เคยประนีประนอม

และเบื้องหลังความสง่างามนี้ คือขุมพลังของกลไก Caliber 8L เจเนอเรชั่นล่าสุดจาก Seiko ที่ไม่ได้แค่ “แม่นยำขึ้น” แต่ยัง “ยืนระยะ” ได้ยาวนานกว่าเดิม พร้อมตอบโจทย์ทุกจังหวะชีวิตที่ไหลไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง

8L45 คือ “มาตรฐานใหม่” ของ King Seiko

หากพูดถึงกลไก… Caliber 8L45 คือพระเอกอีกคนของการกลับมาครั้งนี้

บางคนอาจจะมองว่า “อ๋อ… 8L ก็กลไกนาฬิกาดำน้ำ Seiko นั่นแหละ” ผิด! คิดใหม่ เพราะ 8L45 ที่ถูกยัดลงไปใน VANAC นี้ ไม่ได้มาแบบดิบ ๆ มันถูก ขัดเกลา และปรับจูนมาเพื่อ VANAC โดยเฉพาะ ความเที่ยงตรงที่ +10 ถึง −5 วินาทีต่อวัน และพลังงานสำรองที่ลากยาวถึง 72 ชั่วโมง คือสิ่งที่บอกว่านี่เป็นเครื่องจักรที่ถูกออกแบบมาเพื่อ “การใช้งานจริง” ในชีวิตประจำวัน ที่คุณไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะต้องตั้งเวลาบ่อยแค่ไหน

และที่เป็นไฮไลต์เหนือไฮไลต์คือ… ฝาหลังแซฟไฟร์เปลือย นับเป็นครั้งแรกที่ King Seiko เปิดโอกาสให้คุณได้ส่องดูหัวใจของมันอย่างใกล้ชิด ลองคิดดูสิ… การได้เห็นเฟืองจักรเล็ก ๆ หมุนทำงานอย่างแม่นยำ การได้เห็นการขัดแต่งที่ประณีตบรรจงของช่างฝีมือ Seiko ผ่านฝาหลังที่ใสแจ๋ว…นอกเหนือจากเรื่องของประสิทธิภาพ ก็เปรียบได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงาน “ศิลปะ” ที่เคลื่อนไหวได้ ราวกับการแสดงความมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองสร้างสรรค์ออกมา และเป็นการเชิญชวนให้ผู้สวมใส่ได้สัมผัสถึง “วิญญาณของช่างฝีมือ” ที่บรรจงสร้างสรรค์มันขึ้นมาทีละชิ้น

หนึ่งในทิวทัศน์ที่สวยงาม กับภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่โยโกฮาม่า

โตเกียวในทุกมิติ เมื่อเวลาถูกหลอมรวมกับเส้นขอบฟ้า

ถ้าคุณคิดว่า King Seiko VANAC แค่หยิบ “สี” จากโตเกียวมาแปะบนหน้าปัด… คุณคิดผิดถนัด เพราะมันคือการ “ถอดรหัส” จิตวิญญาณของมหานครที่ไม่เคยหลับใหล เมืองที่เติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด เต็มไปด้วยพลังงานที่ไหลเวียนไม่หยุดนิ่ง และเป็นบ้านเกิดของ King Seiko ที่สะท้อนวิสัยทัศน์อันกว้างไกลเหนือกาลเวลา

แม้ VANAC จะคงไว้ซึ่งความแกร่งดิบจากรูปทรงเหลี่ยมคมราวกับถูกแกะสลักจากเหล็กกล้าทั้งก้อน แต่การออกแบบที่ “ไร้ขอบตัวเรือน” กลับสร้างความหักมุม ให้ความรู้สึกสง่างามและบางเบาราวกับล่องลอย การออกแบบสายที่พัฒนาขึ้นใหม่ก็ไม่ใช่แค่การเอามาประกอบกัน แต่คือผลลัพธ์ของการ “ผสมผสาน” การขัดเงาและแฮร์ไลน์อย่างเชี่ยวชาญ เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ได้แค่ดูหรูหรา แต่ยังสวมใส่สบายจนแทบเป็นส่วนหนึ่งของข้อมือคุณ

บนหน้าปัด คุณจะสังเกตเห็นลวดลายเส้นขีดแนวนอนที่สื่อถึงมิติของเมือง หลักชั่วโมงถูก “ร้อยเรียง” อย่างประณีตบนวงแหวนวงใน และโดดเด่นด้วยหลัก 12 นาฬิกาที่เชื่อมโยงกับองค์ประกอบของเข็มวินาทีรูปตัว “V” ที่สื่อถึงรหัส VANAC ได้อย่างชัดเจน… เป็นความใส่ใจในทุกรายละเอียดที่ยากจะมองข้าม

โทนสีแห่งโตเกียวนั้น แบ่งเป็น 5 เฉดอารมณ์ตามจังหวะชีวิต

ทั้ง 5 เรือน เปรียบเหมือนการบอกเล่าเรื่องราวของกรุงโตเกียวในแต่ละช่วงเวลาอย่างลึกซึ้ง:

King Seiko VANAC SLA083J: “Evening Twilight” (พลบค่ำยามราตรี)

นี่คือช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังร่ำลา ทิ้งทิวทัศน์สีส้มทองไว้บนเส้นขอบฟ้า… ความโรแมนติกที่แสนพิเศษของโตเกียวถูกบรรจงถ่ายทอดลงบนหน้าปัดสีม่วงอมส้ม ตัดด้วยเข็มขอบทองที่เปล่งประกาย มันไม่ใช่แค่นาฬิกา แต่คือการพาช่วงเวลาอันน่าจดจำนั้นมาอยู่บนข้อมือคุณ

King Seiko VANAC SLA085J: “Midnight” (เงียบสงัดกลางดึก)

ยามที่ท้องฟ้าไร้แสงอาทิตย์ ความเงียบสงัดอาจดูไร้สิ้น แต่พลังของมันกลับยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด เป็นแรงบันดาลใจของหน้าปัดสีกรมท่าลึก ที่สะท้อนความลึกลับและมั่นคงของโตเกียวในยามราตรี

King Seiko VANAC SLA087J: “Sunrise” (แสงแรกแห่งรุ่งอรุณ)

เช้าที่สดใสเริ่มต้นขึ้นพร้อมความรู้สึกสดชื่น ราวกับพร้อมรับวันใหม่และออกไปใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย หน้าปัดสีเงิน ตัดขอบด้วยชุดเข็มสีทอง คล้ายแสงแรกของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องลงบนมหานคร เหมือนการบอกว่าทุกวันคือการเริ่มต้นใหม่

รุ่นพิเศษ เมื่อความหรูหราถูกจำกัดด้วยคุณค่า

นอกเหนือจากสามโมเดลหลัก VANAC ยังมีสองเรือนพิเศษ ที่เป็นมากกว่านาฬิกา… มันคือ “คุณค่า” ที่จับต้องได้

King Seiko VANAC Limited Edition รหัส SLA089J: “Golden Dawn” (รุ่งอรุณสีทอง)

แสงสีทองที่สาดส่องลงบนโตเกียว… ขอบฟ้าที่เปล่งประกาย และเป็น “เช้าอันทรงพลัง” ที่ปลุกทุกชีวิตให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง เป็นความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดลงบนนาฬิกาที่เต็มไปด้วยความสง่างามและลักซ์ชัวรี่ ผลิตเพียง 700 เรือนทั่วโลกเท่านั้น การครอบครองที่เหนือกว่าแค่ความสวยงาม

King Seiko VANAC Boutique Exclusive Edition รหัส SLA091J: “Bright Sunny Day” (วันฟ้าใส)

หน้าปัดสี Ice Blue สุดพิเศษเฉพาะที่ Seiko Boutique Edition ที่สื่อถึงทิวทัศน์ของโตเกียวในยามฟ้าใสไร้เมฆหมอก แสงและบรรยากาศโดยรวมของเมืองจะสะท้อนท้องฟ้าสีฟ้าโปร่ง ให้ความรู้สึกสดชื่นและปลอดโปร่งกว่าเรือนไหน ๆ รุ่นนี้มีวางจำหน่ายเฉพาะที่ไซโก บูติก เซ็นทรัลแกรนด์ พระราม 9 เท่านั้น นี่แหละความพิเศษที่ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง

และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าง การออกแบบตัวเรือนที่ไร้ขอบ ที่ทำให้ VANAC ดูเพรียวบางแต่ยังคงความแข็งแกร่ง หรือ สายนาฬิกาที่พัฒนาใหม่ ให้สวมใส่สบาย และยังคงให้ความรู้สึกหรูหราด้วยการผสมผสานการขัดเงาและการขัดแบบแฮร์ไลน์ได้อย่างลงตัว… ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่บอกว่า Seiko กำลังรังสรรค์ “งานศิลปะที่ใช้งานได้จริง”

การกลับมา และการเริ่มต้นใหม่

King Seiko VANAC ในปี 2025 ต้องบอกว่ากลับมาได้อย่างสมฐานะ และพร้อมสำหรับการ “เริ่มต้นใหม่” ที่ใช้รากฐานจากความยิ่งใหญ่ในอดีต มาผสมผสานกับเทคโนโลยีและความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ที่สะท้อนถึงตัวตน ของคนที่กล้าแตกต่าง กล้าที่จะมีพลัง และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง ถ้าคุณกำลังมองหานาฬิกาที่มีเรื่องราว มีจิตวิญญาณ และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในชีวิตของคุณ… King Seiko VANAC อาจจะเป็นคำตอบ

แล้วคุณล่ะ… พร้อมที่จะให้ VANAC เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวบทต่อไปในชีวิตของคุณหรือยัง?

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่:
Wrist Check: ส่องลุค Jonathan Bailey กับ OMEGA Railmaster เมื่อความสง่างามแห่งเวลาโคจรพบไดโนเสาร์ใน Jurassic World Rebirth
ตำนานบทใหม่บนข้อมือ เมื่อ Atlas Watch จาก Tiffany & Co. กลับมาพร้อมความล้ำค่าที่เดินด้วยระบบอัตโนมัติ
Bell & Ross รังสรรค์เรือนเวลาลิมิเต็ดเอดิชั่น ที่ผสานกลไกซับซ้อนเข้ากับความงามสง่าของเซรามิกสีดำ

Share post:

More like this

Parmigiani Tonda PF Micro-Rotor เรือนเวลาแห่งความเรียบง่ายที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ตัวเรือน Steel & Rose Gold

Tonda PF Micro-Rotor No Date คือนาฬิกาแห่งความกลมกลืน นำสเตนเลสสตีลและโรสโกลด์มาบรรจบกันอย่างลงตัวบนตัวเรือนที่บางเฉียบ เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศที่ถูกสงวนไว้

บทกวีแห่งกาลเวลา Grand Seiko Elegance Collection และการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาลญี่ปุ่น

Grand Seiko Elegance GMT สองเรือนเวลาใหม่ 'Snowdrop' และ 'Moondrop' ถ่ายทอดความงดงามของฤดูกาลญี่ปุ่น ถ้าพูดถึงตัวเลขบนหน้าปัดอาจเปรียบได้เหมือนกับบทกวีอันเงียบสงบที่เผยผ่านการเปลี่ยนผ่านอย่างอ่อนโยนของธรรมชาติ...

“La Quête” มหากาพย์แห่งการแสวงหาความเป็นเลิศ Vacheron Constantin Les Cabinotiers ซีรีส์ฉลอง 270 ปี

Vacheron Constantin ฉลองครบรอบ 270 ปีด้วยซีรีส์ Les Cabinotiers "La Quête" เผย 6 เรือนเวลาสุดยอด Single-Piece Edition ที่รวมสุดยอดกลไก Grand Complication และงานหัตถศิลป์ Métiers d'Art เพื่อสดุดีตำนานดาราศาสตร์และวีรบุรุษ

Bell & Ross BR-03 GMT COMPASS เรื่องราวของเครื่องมือนำทางบนข้อมือ

Bell & Ross BR-03 GMT Compass นำเสนอนาฬิกาที่มีความสามารถในการระบุทิศทาง โดยใช้หน้าปัดสเกลเข็มทิศร่วมกับเข็ม GMT ดีไซน์ตัวเรือนสี่เหลี่ยม 42 มม. อันเป็นเอกลักษณ์ของ Bell & Ross